ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 1 เดือนเมษายน 2022

AI ตรวจสุขภาพจิตด้วยเสียง

ผู้ให้บริการทางสาธารณสุขมีเครื่องมือมากมายในการตรวจสอบสุขภาพทางกายภาพของคนไข้เช่น ปรอทวัดไข้ หรือ การเอกซเรย์ ในทางกลับกันเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบสุขภาพจิตที่มีความแม่นยำกลับมีน้อยมาก Maria Espinola ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาจิตเวชศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ที่ University of Cincinnati College of Medicine ได้บอกว่าผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่สามารถตรวจเจอปัญหาสุขภาพจิตของคนไข้โดยเพียงฟังว่าผู้ป่วยผู้ว่าอะไรและมีวิธีการพูดอย่างไร ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่มีอาการหดหู่ส่วนมากจะมีเสียงพูดแบบเสียงโทนเดียว แบนราบ และนุ่มนวลขึ้น พวกเขายังใช้เสียงพูดที่เบาลง มีช่วงเสียงที่แคบกว่าปกติ และมีจังหวะหยุดพูดบ่อยกว่าปกติ ในขณะที่ผู้ป่วยที่มีความวิตกกังวลมักจะพูดเร็วขึ้นและมีปัญหาในการหายใจ ซึ่งปัจจุบันมีนักวิจัยจำนวนหนึ่งกำลังศึกษาการนำ AI มาช่วยแก้ไขปัญหานั้นโดยการประเมินสุขภาพจิตของผู้ป่วยจากเสียงของเขา ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ป่วยที่ได้กล่าวไปข้างต้นร่วมกับเทคโนโลยี AI ที่มีความสามารถในการตรวจจับลักษณะของเสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยิน นักวิจัยที่ทำการศึกษาเรื่องนี้หวังว่าพวกเขาจะสามารถทำนายปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น ภาวะหดหู่ ภาวะวิตกกังวล โรคจิตเภท หรือโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง และ อื่น ๆ อีกมากมาย องค์กรพันธมิตรผู้ป่วยโรคทางจิตแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่รายงานว่าในปี 2020 มีชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่จำนวนหนึ่งในห้าที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการป่วยทางจิตและตัวเลขเหล่านั้นก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ Dr.Bentley ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ Harvard Medical School ได้กล่าวว่าถึงแม้ว่าเทคโนโลยี AI จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนผู้ให้บริการทางสุขภาพจิตที่ต้องการทรัพยากรจำนวนมากให้เพียงพอต่อความต้องการของทั้งประเทศแต่ AI อาจจะเขามาช่วยลดอุปสรรคในการได้รับการตรวจโรคที่ถูกต้องโดยการช่วยวินิจฉัยเบื้องต้นสำหรับคนที่ลังเลที่จะเข้ารับการรักษา และอำนวยความสะดวกสำหรับการมอนิเตอร์อาการผู้ป่วยระหว่างการรับการรักษาในแต่ละรอบ อย่างไรก็ตามในขณะที่การศึกษากำลังดำเนินการนั้นก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการอคติว่าตัวเทคโนโลยีนั้นจะสามารถทำงานได้กับผู้ป่วยทุกคนที่มีความแตกต่างกันทั้งเรื่องอายุ เพศ ชาติพันธุ์ และอื่น ๆ หรือเปล่า นอกจากนั้นเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลเสียงที่ถูกนำไปใช้งานก็ยังไปสิ่งที่น่ากังวลด้วยเช่นกัน

อ้างอิง : https://www.nytimes.com/2022/04/05/technology/ai-voice-analysis-mental-health.html

 

 ‘Ai-Da’ หุ่นยนต์ AI ตัวแรก ที่วาดภาพเหมือนศิลปิน

Ai-Da เป็น Android ที่พัฒนาโดยนักจัดนิทรรศการชาวอังกฤษ Aidan Meller และธุรกิจหุ่นยนต์ของ Cornish Engineered Arts ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตาม Ada Lovelace นักคณิตศาสตร์และผู้บุกเบิกโปรแกรมเมอร์ โดยหุ่นยนต์นี้มีกล้องสองตัวที่ดวงตาและมีแขนไบโอนิคที่สามารถใช้ทักษะการเคลื่อนไหวได้ดี ซึ่งการวาดภาพ AI ของเธอ ได้รับการฝึกฝนสำหรับการร่างภาพ การวาดภาพ และแม้แต่การแกะสลักได้ Ai-Da สร้างความประทับใจให้โลกด้วยความสามารถของเธอในการสร้างภาพผู้คนและสถานการณ์ที่เธอเห็น ซึ่งอัลกอริธึม AI กระตุ้นให้ Ai-Da ซักถาม เลือก ตัดสินใจ และสร้างภาพวาด เป็นงานที่ต้องใช้ความอุตสาหะ ใช้เวลามากกว่าห้าชั่วโมงในการวาดภาพ แต่ผลงานของเธอไม่มีงานใดที่เหมือนกันทุกประการ ซึ่งความสามารถของเธอจะเป็นเหมือนประเด็นที่น่าจับตามองเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในงานด้านการสร้างสรรค์อีกด้วย

อ้างอิง : https://www.marktechpost.com/2022/04/05/meet-ai-da-the-worlds-first-ultra-realistic-humanoid-robot-artist-powered-by-ai/

 

Nautilus หุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำสัญชาติไทย รับรางวัลระดับเอเชีย

บริษัท โรวูล่า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ROVULA ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ Subsea IRM ที่ให้บริการเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ในการสำรวจ และซ่อมบำรุงท่อส่งปิโตรเลียมใต้น้ำอย่างครบวงจร ภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอีกครั้งด้วยผลงานการพัฒนา Nautilus หุ่นยนต์อัจฉริยะเพื่อซ่อมแซม และบำรุงรักษาท่อใต้ทะเลตัวแรกของโลก ที่คว้ารางวัล Spotlight on New Technology Award ในงาน Offshore Technology Conference Asia (OTC Asia) 2022 งานประชุมสัมมนาระดับนานาชาตินัดสำคัญของอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของเอเชีย โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการทดลองนำร่องใช้งานแล้วในอุตสาหกรรมภายใต้เครือ ปตท. และ ปตท.สผ. และเตรียมต่อยอดเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์สู่กลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ตลอดจนธุรกิจพลังงานทางเลือก และธุรกิจด้านโทรคมนาคมต่อไป ภายในปี 2565 นี้

อ้างอิง : https://www.ryt9.com/s/prg/3311624

 

AI จัดชุดยาผู้ป่วยมะเร็งภายใน 2 ชั่วโมง

ด้วยการทดสอบรูปแบบใหม่นั้นอาจใช้เวลาไม่เกินสองวันในการทำนายว่าการให้ยาชนิดไหนบ้างที่เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่แตกต่างกัน ด้วยการใช้เทคนิค AI ที่ล้ำสมัยในการวิเคราะห์ข้อมูลตัวอย่างเนื้องอกนั้นส่งผลให้เราสามารถคาดเดาการตอบสนองต่อยาของคนไข้ได้ดีกว่าวิธีการปัจจุบันเป็นอย่างมากโดยการทดสอบในแต่ละครั้งนั้นใช้เวลาเพียง 24 ถึง 48 ชั่วโมงเท่านั้น นักวิจัยจำนวนมากเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาการรักษาโดยช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ว่ายาหลายชนิดทำงานร่วมกันอย่างไร แม้ว่าการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมของเนื้องอกนั้นสามารถเปิดเผยการกลายพันธุ์ที่เป็นเป้าหมายในการรักษาได้ แต่ข้อมูลเหล่านั้นเพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยในการทำนายการเลือกชุดยาที่แม่นยำได้ โดย Udai Banerji ศาสตราจารย์ด้านเภสัชวิทยามะเร็งระดับโมเลกุลที่ Institute of Cancer Research (ICR), London ได้บอกว่าการค้นพบนี้ได้แสดงให้เห็นว่าแนวทางนี้สามารถนำไปใช้จริงได้และคาดการณ์ได้แม่นยำกว่าการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก นักวิทยาศาสตร์ที่ ICR ได้ทดสอบเทคนิคใหม่นี้กับเซลล์มะเร็งและเซลล์เนื้องอกที่นำมาจากของเหลวในปอดในผู้ป่วยมะเร็งปอดโดยพวกเขาใช้อัลกอริทึมในการทำนายว่าเซลล์มีความอ่อนไหวต่อยารักษามะเร็งแต่ละชนิดอย่างไร และพบว่าเทคนิคนี้สามารถทำนายการตอบสนองของยาแต่ละตัวได้แม่นยำกว่าการใช้ลักษณะทางพันธุกรรม จากนั้นนักวิจัยใช้วิธีการเดียวกันนี้ในการทำนายความไวต่อการผสมยาโดยใช้การผสมยาสองชนิดจากยาที่แตกต่างกันทั้งหมด 21 ชนิด ซึ่งผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า AI นั้นสามารถทำนายได้ถูกต้องถึง 83% แต่อย่างไรก็ตามการศึกษานี้ยังเป็นเพียงการ proof of concept เท่านั้นซึ่งจำเป็นต้องมีการทดลองเพิ่มเติมก่อนจึงจะสามารถใช้ในผู้ป่วยจริงได้

อ้างอิง : https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-04-03/test-could-predict-effective-cancer-drug-combinations-in-less-than-two-days

 

AI ตรวจผู้ใช้งานทวิตที่ซึมเศร้าได้แม่นยำถึง 9 ใน 10

นักวิจัยที่ Brunel University London และ the University of Leicester ได้ทำการพัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถตรวจจับภาวะซึมเศร้าในผู้ใช้งานได้แม่นยำถึง 88.39% โดยอัลกอริทึมทำการแยกแยะสภาพจิตใจโดยวิเคราะห์ข้อมูลถึง 38 จุด จากโปรไฟล์ Twitter สาธารณะของพวกเขา เช่น เนื้อหาของโพสต์ เวลาที่โพสต์ และผู้ใช้รายอื่นในวงสังคมของพวกเขา ทีมวิจัยกล่าวว่าระบบที่คล้ายคลึงนี้กันอาจนำไปประยุกต์ใช้งานในอนาคตได้หลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น การวินิจฉัยโรคซึมเศร้าในระยะเริ่มต้น การคัดกรองการจ้างงาน หรือการสอบสวนของตำรวจ อัลกอริทึมได้รับการสอนโดยใช้ฐานข้อมูลสองอัน ได้แก่ ฐานข้อมูลประวัติ Twitter ของผู้ใช้หลายพันคน ควบคู่ไปกับฐานข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพจิตของผู้ใช้เหล่านั้นตัวโปรแกรมทำงานโดยกรองข้อมูลสำหรับผู้ใช้ที่มีทวีตมากกว่าห้าครั้งและเรียกใช้เทคนิคซอฟต์แวร์ภาษาธรรมชาติ (Natural Language software) ในการแก้ไขคำผิดและตัวย่อ หลังจากนั้นพิจารณาปัจจัยที่แตกต่างกัน 38 ประการ เช่น การใช้คำเชิงบวกและเชิงลบของผู้ใช้ จำนวนเพื่อนและผู้ติดตามที่พวกเขามี และการใช้อิโมจิ ในการแยกแยะสภาพจิตใจและอารมณ์ของผู้ใช้รายนั้น จากการทดสอบกับชุดข้อมูลภาวะซึมเศร้าของ Tsinghua ตัวอัลกอริทึมให้ผลลัพธ์ความแม่นยำถึง 88.39% และ 70.69% สำหรับชุดข้อมูล CLPsych 2015 จาก John Hopkins University โดยศาสตราจารย์ Abdul Sadka ผู้อำนวยการสถาบัน Digital Futures แห่ง Brunel ได้บอกว่า “อะไรก็ตามที่ได้ผลลัพธ์เกิน 90% ถือว่ามันยอดเยี่ยมสำหรับ machine learning ดังนั้นสำหรับหนึ่งในสองฐานข้อมูลนั้นสุดยอดมากแล้ว”นอกเหนือจากนี้ขั้นต่อไปของการวิจัยนี้คือการตรวจสอบความถูกต้องในสภาพแวดล้อมหรือภูมิหลังที่แตกต่างกัน และที่สำคัญกว่านั้นคือ เทคโนโลยีที่ได้จากการตรวจสอบนี้อาจพัฒนาไปสู่การใช้งานอื่นๆ เช่น อีคอมเมิร์ซ การสอบคัดเลือก หรือการคัดกรองผู้สมัคร

อ้างอิง : https://techxplore.com/news/2022-04-bot-depressed-twitter-users-cases.html

 

บริษัท AI เทรดหุ้นและคริปโต จากสามนักพัฒนา DeepMind

สามนักพัฒนา AI เก่าของ DeepMind (บริษัทด้าน AI ชื่อดัง) ที่ได้ออกจากบริษัทเมื่อเดือนมกราคมได้เปิดบริษัทใหม่ที่มีชื่อว่า EquiLibre Technologies โดยพุ่งเป้าไปที่การสร้างอัลกอริทึมในการเทรดโดยใช้หลักการทฤษฎีเกม (game theory) และการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (reinforcement learning) สามนักพัฒนา AI ดังกล่าวได้แก่ Martin Schmid, Rudolf Kadlec และ Matej Moravcik โดยที่พวกเขาทั้งสามเคยพัฒนา AI ตัวแรกที่สามารถเอาชนะผู้เล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพได้ (เล่นแบบ no-limit Texas hold ’em) ซึ่งเขาทั้งสามได้นำหลักการเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับอัลกอริทึมการเทรดในบริษัทใหม่ของเขา โดย Schmid ได้กล่าวกับ CNBC ว่า “แนวคิดของเราคือแทนที่จะให้อัลกอริทึมของเราเล่นโป๊กเกอร์นั้นเราจะมันเล่นการเทรดแทน” โดยเขาบอกว่าตอนนี้พวกเขากำลังสนใจในคริปโตด้วยนอกเหนือจากการเทรดหุ้น เขายังได้กล่าวถึงเรื่องความกังวลในการกำกับดูแลไว้ด้วยว่าเขาไม่ได้รู้สึกเป็นห่วงเกี่ยวกับการควบคุมหรือจำกัดการใช้อัลกอริทึมของเขาเนื่องจากหลายบริษัทในปัจจุบันก็มีการใช้งานอัลกอริทึมที่คล้ายกันอยู่แล้ว “เราแค่ต้องการสร้างอัลกอริทึมที่ดีกว่าในที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ก็แค่นั้น” โดยในระยะยาวบริษัท EquiLibre Technologies มีเป้าหมายในสร้างกองทุนป้องกันความเสี่ยงที่มี AI เป็นรากฐาน หรือไม่ก็ขายเทคโนโลยี AI นี้ให้กับสถาบันธนาคารหรือนักลงทุน ปัจจุบันมีธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture capital) จำนวนมากได้มาร่วมลงทุนในบริษัท EquiLibre Technologies แล้วโดย Schmid ได้บอกว่าบริษัทของเขาเป็นบริษัทที่ได้เงินระดมมากที่สุดในสาธารณรัฐเช็กสำหรับรอบ seed round แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผยจำนวนเงินทั้งหมด

อ้างอิง : https://www.cnbc.com/2022/04/05/deepmind-alum-want-to-make-an-ai-that-can-pick-stocks-and-crypto.html

 

AI ช่วยเพิ่มโอกาสในการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพจากสาหร่าย

หลายคนอาจเคยเห็นข่าวที่น้ำในทะเลหรือทะเลสาบเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือสีอื่นๆ เช่นสีแดง ซึ่งเกิดจากการที่สาหร่ายเซลล์เดียวเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในปริมาณมาก ซึ่งปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Algae Bloom” สาหร่ายเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เพิ่มปริมาณได้อย่างมหาศาล จากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ข้อสรุปว่า สาหร่ายเป็นพืชที่ผลิตน้ำมันได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาพืชทั้งหมดบนโลก อย่างไรก็ตามการผลิตสาหร่ายด้วยวิธีที่คุ้มค่านั้นเป็นสิ่งที่ท้าทาย โดยงานวิจัยล่าสุดของ AI กำลังช่วยเปลี่ยนแปลงความท้าทายเหล่านั้น นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส A&M ได้พัฒนาโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงสองรูปแบบ เพื่อคาดการณ์ว่าแสงจะกระจายตัวในสาหร่ายอย่างไรและเพื่อคาดการณ์ว่าการกระจายนี้มีผลต่ออัตราการเติบโตของสาหร่ายอย่างไร ซึ่งการทำงานร่วมกันของแบบจําลองสามารถช่วยให้นักวิจัยกําหนดความเข้มข้นของสาหร่ายที่เหมาะสมที่สุดสําหรับการเจริญเติบโต เทคนิคนี้ช่วยให้สาหร่ายเจริญเติบโต 43 กรัมต่อตารางเมตรต่อวัน เกือบ 2 เท่าของอัตราการเติบโตปกติ 25 กรัมที่กําหนดโดยกรมพลังงาน นักพัฒนาคาดหวังว่าจะลดค่าใช้จ่ายของเชื้อเพลิงชีวภาพสาหร่ายจาก $ 33 ต่อแกลลอนให้เหลือเพียง $ 5

อ้างอิง : https://spectrum.ieee.org/ai-could-power-algae-biofuel-growth

 

AI ตรวจสอบความเสียหายของถุงมือนักบินอวกาศแบบเรียลไทม์

ไมโครซอฟท์และฮิวเลตต์แพ็คการ์ดเอ็นเตอร์ไพรส์ (HSE) กําลังทํางานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ของนาซาเพื่อพัฒนาระบบ AI สําหรับการตรวจสอบถุงมือของนักบินอวกาศ ถุงมือเป็นอุปกรณ์ที่มีแนวโน้มสึกหรอได้ง่ายเป็นพิเศษ เนื่องจากนักบินอวกาศจำเป็นต้องใช้ถุงมือในการทำกิจกรรมทุกๆอย่าง เช่น การซ่อมอุปกรณ์ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ ถุงมือของนักบินอวกาศถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มีความแข็งแรง รักษาความดัน ป้องกันอุณหภูมิที่รุนแรง และป้องกันอันตรายอื่นๆ ปัจจุบันนักบินอวกาศจะส่งภาพถุงมือเหล่านั้นกลับมายังโลกเพื่อตรวจสอบความเสียหายโดยนักวิเคราะห์ของนาซ่าซึ่งกระบวนการดังกล่าวก่อให้เกิดความล่าช้า ด้วยความร่วมมือจากทั้งสามบริษัทชั้นนำจึงได้เกิดโครงการพัฒนาระบบ AI ที่สามารถตรวจจับสัญญาณการสึกหรอของถุงมือนักบินอวกาศได้อย่างรวดเร็ว ระบบได้ทำการเรียนรู้ภาพถุงมือใหม่ที่ไม่เสียหายและถุงมือที่มีรอยสึกหรอจากการเดินทางอวกาศ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกตรวจสอบและกำกับโดยวิศวกรของนาซ่า ระบบจะทำการประเมินความเสียหายในต่อพื้นที่ในถุงมือแต่ละข้างพร้อมทั้งประมาณความเสียหายเป็นตัวเลข

อ้างอิง : https://artificialintelligence-news.com/2022/04/05/ai-system-inspects-astronauts-gloves-damage-real-time/

 

‘Darktrace’ AI หยุดการโจมตีของ Ransomware

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2565 บริษัท Darktrace ผู้นำระดับโลกด้าน AI ด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ได้มีการประกาศว่า AI ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชื่อ Darktrace สามารถใช้เทคโนโลยีการโต้ตอบอัตโนมัติในการหยุดการโจมตีเพื่อเรียกค่าไถ่ (ransomware attack) กับบริษัทด้านการเงินในแอฟริกาใต้ได้สำเร็จ ซึ่งบริษัทดังกล่าว ได้มีการทดลองใช้ Darktrace ขณะที่ถูกโจมตี โดย Darktrace จะทำการเรียนรู้ ทำความเข้าใจกับพฤติกรรมปกติภายในบริษัทเพื่อให้สามารถตรวจจับการคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยและสามารถตอบโต้ได้ทันท่วงที ซึ่งในช่วงเช้าของกลางเดือนมีนาคม 2565 Darktrace ได้ตรวจจับว่าเซิฟเวอร์สำหรับการส่งอีเมลมีการติดต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของผู้ไม่ประสงค์ดีจากภายนอก และจากการที่ Darktrace ได้เรียนรู้แล้วว่าพฤติกรรมปกติของบริษัทเป็นอย่างไร Darktrace จึงสามารถระบุได้ทันทีว่าพฤติกรรมนี้ไม่ปกติและอาจเป็นอันตรายได้ จากนั้น เซิร์ฟเวอร์สำหรับส่งอีเมลที่ถูกยึดครอง ได้มีการพยายามเก็บข้อมูลของบริษัทเพิ่มเติมด้วยการใช้รหัสผ่านของพนักงาน แต่ว่าระบบตอบโต้อัตโนมัติของ Darktrace ได้ทำการหยุดการเชื่อมต่อของเซิร์ฟเวอร์ผู้ไม่ประสงค์ดีภายนอก และพร้อมกับทำงานในการตรวจสอบของระบบอื่นพร้อมกันต่อไปได้

อ้างอิง : https://www.prnewswire.com/news-releases/darktrace-ai-stops-sophisticated-ransomware-attack-at-south-african-financial-services-provider-301517557.html

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน 1 – 7 เมษายน 2565 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก