ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 1 เดือนมิถุนายน 2022

รพ.บำรุงราษฎร์เปิดตัว AI เช็ก 10 ความผิดปกติของ “ปอด” และ “มะเร็งเต้านม”

รพ.บำรุงราษฎร์ ได้มีการนำ Radiology AI ปัญญาประดิษฐ์ทางรังสีวิทยาเข้ามาใช้ในโรงพยาบาล เสมือนเป็นผู้ช่วยรังสีแพทย์ทั้งในส่วนของการคัดกรอง การวิเคราะห์ และการวินิจฉัย พร้อมระบุตำแหน่งภาวะความผิดปกติของปอด และมะเร็งเต้านมระยะแรกเริ่ม โดยได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาในปี 2564 มีความล้ำทันสมัยในการวินิจฉัย มีความเสถียร แม่นยำ และรวดเร็ว ด้วยการใช้ Microsoft Azure แพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

ทั้งนี้ บำรุงราษฎร์ได้ใช้เทคโนโลยี Radiology AI ในศูนย์ตรวจสุขภาพ แผนกผู้ป่วยวิกฤต (ICU) แผนกฉุกเฉิน และแผนกอื่น ๆ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

1. Radiology INSIGHT CXR จะใช้ในการวิเคราะห์ภาพเอกซ์เรย์ทรวงอก เสมือนเป็นผู้ช่วยรังสีแพทย์ในการตรวจหาภาวะความผิดปกติของภาพเอกซเรย์ปอด รวมถึงช่วยวินิจฉัยภาวะฉุกเฉินได้ตั้งแต่เนิ่นๆ งานวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดหากได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม จะทำให้มีอัตราการรอดชีวิต 5 ปี ถึง 73% แต่หากวินิจฉัยช้า อัตราการรอดชีวิต 5 ปีจะเหลือเพียง 18% เท่านั้น โดย 10 ภาวะผิดปกติของปอด ที่ AI สามารถช่วยตรวจหาจากภาพเอกซเรย์ปอดได้ ได้แก่ ภาวะที่เงาส่วนกลางช่องอกระหว่างปอด 2 ข้างกว้างผิดปกติ, ภาวะที่มีลมรั่วอยู่ในช่องท้อง, ภาวะที่มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด, ภาวะที่เกิดหินปูนในปอด, ภาวะหัวใจโต, ภาวะที่มีก้อนในปอด, ภาวะที่มีลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด, ภาวะที่มีพังผืดที่ปอด, ภาวะที่ถุงลมของปอดถูกแทนที่ด้วยสิ่งผิดปกติ เช่น น้ำ หรือ หนอง หรือเลือด, และภาวะที่ปอดขายตัวไม่เต็มที่หรือปอดแฟบ

2. Radiology INSIGHT MMG จะใช้วิเคราะห์มะเร็งเต้านมจากภาพถ่ายแมมโมแกรม ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการคัดกรอง วิเคราะห์ และวินิจฉัยมะเร็งเต้านมบนภาพถ่ายแมมโมแกรม หากได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม และเริ่มการรักษาอย่างเหมาะสมจะทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิต 5 ปี สูงถึง 99% แต่หากวินิจฉัยช้า ทำให้อัตราการรอดชีวิต 5 ปี จะลดลงเหลือ 86% ลงมาจนถึง 29% ตามระยะของมะเร็งที่สูงขึ้น

อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/social/1007379

 

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผลิตหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ เตรียมแข่งโอลิมปิกวิชาการระดับนานาชาติ

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กับ มูลนิธิพัฒนามนุษย์นานาชาติโฟกัส ร่วมทำข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษาของไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล ผ่านระบบออนไลน์และออนไซต์ ส่งเสริม แลกเปลี่ยนงานวิจัยด้านวิชาการ ในการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม

โดยที่สอศ.มีหน้าที่ในการจัดการอาชีวศึกษาและอบรมวิชาชีพ เพื่อผลิตบุคลากรในระดับช่างฝีมือ ช่างเทคนิค และนักเทคโนโลยี ร่วมกับ ROBBO Thailand ซึ่งเป็นองค์กรที่นำนวัตกรรมทางการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ โดยใช้ระบบ Coding Robotics AI Entrepreneurship เข้ามาเพื่อสนับสนุนพัฒนาการอาชีวศึกษาของไทย และสนับสนุนส่งเสริมการคัดเลือกสถานศึกษาที่มีผลงานและมีความพร้อมเข้าร่วมโครงการ ส่งเสริมการคัดเลือกครูในสถานศึกษาจำนวน 20 สถานศึกษา จำนวน 40 คนทั่วประเทศ เพื่อสร้างครูต้นแบบ และคัดเลือกนักเรียน นักศึกษาที่มีศักยภาพเข้าร่วมประกวดและแข่งขันเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์โอลิมปิกวิชาการระดับประเทศและระดับนานาชาติ (International SCRATCH Olympiad) และต่อยอดเชิงพาณิชย์ สู่การเป็นผู้ประกอบการสากลในระดับนานาชาติต่อไปเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมครูผู้สอนและผู้เรียนก้าวสู่ยุค 5.0ในศตวรรษที่ 21 ผลักดันให้นักเรียน นักศึกษาไทยในระดับอาชีวศึกษาได้ก้าวเข้าสู่เวทีโลก ร่วมพัฒนาการเรียนการสอนให้กับผู้เรียน ร่วมกันสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สู่ผู้ประกอบการสากล

อ้างอิง : https://www.banmuang.co.th/news/education/282375

 

Google เปิดตัว Interview Warmup มี AI ช่วยฝึกตอบคำถามก่อนสัมภาษณ์งานจริง

Interview Warmup เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Grow with Google ที่ช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผู้เรียนให้มีความมั่นใจและมีความพร้อมในการสัมภาษณ์งาน โดยจะมี AI ช่วยถามเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งานทั่วไป และคำถามเฉพาะด้านของแต่ละอาชีพ ซึ่งมีอาชีพให้เลือก 6 อย่าง คือ Data Analytics, E-Commerce, IT Support, Project Management, UX Design และอาชีพอื่น ๆ เมื่อเลือกงานที่ต้องการสัมภาษณ์ได้แล้ว เครื่องมือ Interview Warmup ของ Google จะเริ่มต้นถามคำถามทั่วไป 5 ข้อ ซึ่งเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ โดยผู้ตอบคำถามจะต้องสื่อสารด้วยเสียงเพื่อโต้ตอบกับ AI ด้วยการพูดผ่านไมโครโฟน โดยที่เครื่องมือนี้รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น

AI จะช่วยวิเคราะห์การตอบคำถามของผู้ใช้ โดยชี้ให้เห็นข้อบกพร่อง สิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไข รวมไปถึงการใช้ภาษาในการตอบคำถาม เช่น คำศัพท์ตัวไหนที่ใช้ซ้ำบ่อยเกินไป คำไหนควรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้กลายเป็นอุปสรรคเมื่อต้องสัมภาษณ์งานจริง นอกจากนี้ AI ยังช่วยแนะนำคำตอบที่ใกล้เคียงกับประสบการณ์ ทักษะ ความสนใจ และเป้าหมายในการหางาน เพื่อเป็นแนวทางในการตอบคำถามสัมภาษณ์งาน

การตอบคำถามสัมภาษณ์งานกับ AI เป็นเพียงตัวช่วยก่อนไปสัมภาษณ์งานจริง แต่ผู้ใช้ยังต้องใช้ความสามารถส่วนตัวในการแก้ไข และตอบคำถามซึ่งอาจแตกต่างจากสิ่งที่ได้ฝึกซ้อมกับ AI ดังนั้นการเตรียมความพร้อมและเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองจึงเป็นสิ่งที่จะต้องมีอยู่เสมอ

อ้างอิง : https://news.thaipbs.or.th/content/315901

 

Google แบนโปรเจกต์ Deepfake บนบริการเขียนโค้ดออนไลน์ Colab

Google ได้เพิ่ม “การสร้าง Deepfake” ในรายการโครงการที่ถูกแบนจากบริการ Colab ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จาก Google Research ที่ช่วยให้ data scientist นักวิจัยด้าน AI หรือ นักเรียนสามารถเขียนและเรียกใช้ โปรแกรมภาษา Python บนเบราว์เซอร์ของตนเองได้

Deepfake ใช้สถาปัตยกรรมโครงข่ายประสาทเทียม เช่น autoencoders หรือ generative adversarial networks (GAN) เพื่อจัดการหรือสร้างเนื้อหาภาพและเสียง เทคโนโลยีนี้มักถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ที่เป็นอันตราย เช่น การสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศของบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอม การฉ้อโกง และการสร้างเนื้อหาหลอกลวงที่มุ่งเปลี่ยนมุมมองและมีอิทธิพลต่อกระบวนการประชาธิปไตย

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการโพสต์ภาพลวงของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ขอให้กองทหารวางอาวุธในการต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองจากการรุกรานของรัสเซียถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ข่าวที่ถูกแฮ็ก โชคดีที่ตัววิดีโอนั้นมีคุณภาพต่ำทำให้ Zelenskyy ตัวปลอมนั้นมีหัวที่ใหญ่และถูกสังเกตุว่าเป็นของปลอมอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกายของเขา ซึ่งวิดีโอนี้อาจมีผลกระทบร้ายแรงหากผู้คนที่ได้เห็นนั้นเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ความกังวลเกี่ยวกับการใช้ Deepfake ดังกล่าวน่าจะเป็นเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจของ Google ในการแบนโครงการที่เกี่ยวข้อง

ตอนนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงว่าการแบนโปรเจกต์ดังกล่าวไม่ได้หยุดการพัฒนาเทคโนโลยี Deepfake และอาจขัดขวางความพยายามในการสร้างเครื่องมือสำหรับการตอบโต้ Deepfake ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยี Deepfake ก็มีข้อดีเหมือนกันเนื่องจากมันถูกใช้สำหรับดนตรี, การเคลื่อนไหว, การเสียดสีและแม้กระทั่งช่วยตำรวจในการแก้ปัญหาอาชญากรรม  ข้อมูลย้อนหลังจาก archive.org ชี้ให้เห็นว่า Google ได้เพิ่มเทคโนโลยี Deepfake ในรายการโครงการที่ถูกแบนจาก Colab อย่างเงียบๆ ในช่วงระหว่างวันที่ 14-24 กรกฎาคม 2022

อ้างอิง : https://www.artificialintelligence-news.com/2022/05/31/google-no-longer-accepts-deepfake-projects-on-colab/

 

รายงานระบุ AI สามารถจัดการความท้าทายในภาคเกษตรของอินเดียได้

สำหรับประเทศอินเดียแม้ว่าภาคเกษตรกรรมเป็นภาคส่วนสำคัญที่สร้างรายได้ให้ประชาชนประมาณร้อยละ 58 ของประชากร แต่การนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคส่วนนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญและเผชิญกับความท้าทายหลายอย่างที่อาจจะส่งผลไปยังห่วงโซ่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

รายงานเรื่อง ‘Redefining agriculture through artificial intelligence: Predicting the unpredictable’ อธิบายว่าความท้าทายในด้านเกษตรกรรมในประเทศอินเดียต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซึ่งสามารถสำเร็จได้โดยโซลูชั่นทางเทคโนโลยี และระบบทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องปรับให้เข้ากับแนวทางแบบองค์รวม ซึ่งสามารถสร้างขึ้นจากความรู้ด้านการเกษตรแบบพื้นเมืองและแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานกับแนวทางการทำฟาร์มอัจฉริยะที่รวมการนำเครื่องมือและเทคนิคปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้

รายงานกล่าวเพิ่มเติมว่า การนำแนวทางการทำฟาร์มอัจฉริยะเชิงนวัตกรรมกำลังค่อยๆ กลายเป็นเทรนด์หลัก และด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น IoT (Internet of Things), ML (Machine Learning), Cloud Computing, Statistical Computing, Deep Learning, Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) จะช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถเอาชนะความท้าทายของ จำนวนผลผลิต คุณภาพการผลิต การตรวจสอบย้อนกลับ และการปล่อยคาร์บอนด้วยความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น

โดรนหรือยานพาหนะไร้คนขับ (UAV) กำลังถูกใช้อย่างเด่นชัดในภาคเกษตรกรรม ซึ่งขณะที่ภาคการเกษตรของประเทศมีการพัฒนามากขึ้น การใช้โดรนในวิธีการทำการเกษตรนั้นคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นพร้อมกับบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมากที่ลงทุนในโดรนราคาประหยัด ซึ่งสามารถสนับสนุนเกษตรกร เพิ่มพูนความรู้ และสร้างงานให้กับเยาวชนในชนบทได้

นอกจากนี้รายงานยังกล่าวอีกว่ารัฐบาลกำลังสร้างระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพด้านการเกษตรผ่านโครงการ incubator โดยใช้ธีม ‘AI for all’ และได้วางคำแนะนำกว้างๆ สำหรับการพัฒนาระบบนิเวศของ AI ซึ่งแม้จะมีความคืบหน้าในการสร้างระบบนิเวศด้าน AI ก็ตาม ภาคเกษตรกรรมยังต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายมากมายที่ต้องแก้ไขเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างราบรื่น โดยความท้าทายหลักในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ AI ในภาคเกษตรกรรม ได้แก่ ความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขา ช่องว่างที่มีอยู่ในการวิจัย AI สาธารณะ คุณภาพของข้อมูลที่ไม่ดี การขาดการเข้าถึงข้อมูล และการขาดการประสานงานและการทำงานร่วมกันข้ามพรมแดน

รายงานแนะนำว่าความท้าทายเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ผ่านกลยุทธ์ ‘3S’ ได้แก่ Scale, Skill และ Service เพื่อเปลี่ยน AI ให้มีความสามารถด้านเกษตรกรรม ซึ่งนำไปสู่การนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างกว้างขวางในระบบนิเวศผ่านความพยายามในการทำงานร่วมกันของผู้มีส่วนสำคัญในฐานะตัวขับเคลื่อนของการเปลี่ยนแปลง

อ้างอิง : https://economictimes.indiatimes.com/news/economy/agriculture/use-of-ai-tech-can-address-challenges-in-indian-agriculture-sector-says-new-report/articleshow/91945030.cms

 

SingSing แอปให้คะแนนการร้องเพลงของคุณ

บริษัท SING SING PTE. บจก. (SingSing) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงความสำเร็จในการผสานรวมเทคโนโลยีการให้คะแนนอัจฉริยะ โดยใช้ Artificially Intelligent เข้ากับแอป SingSing ซึ่งจะช่วยให้คะแนนการร้องเพลงของนักร้องโดยอัตโนมัติ

เทคโนโลยีการให้คะแนน AI ของ SingSing จะมีการให้คะแนนจากการดู 3 เกณฑ์ คือ เรื่องแรก การประเมินโดยดูเรื่องเกี่ยวกับเสียง ซึ่งรวมถึงเพลงที่เหมาะสม คุณภาพเสียง และการพิจารณาว่าสะท้อนถึงนักร้องคนโปรดที่เลือกได้ดีหรือไม่ เรื่องที่ 2 คือ เมื่อร้องเพลงพร้อมกับเปิดกล้อง เทคโนโลยี AI Scoring จะประเมินรูปลักษณ์ของนักร้องตามสัดส่วนใบหน้ามาตรฐานด้วย และสุดท้าย ระหว่างการร้องเพลง ก็จะมีการประเมินสีหน้าของนักร้องโดยเปรียบเทียบกับเพลงด้วย ซึ่งระบบนี้จะทำให้เกิดความก้าวหน้าของ community connection เพราะเทคโนโลยีการให้คะแนน AI ที่ไม่เหมือนใครนี้ไม่เพียงแต่สามารถโต้ตอบได้เท่านั้น แต่ยังช่วยเชื่อมโยงผู้คนนับล้านที่รักการร้องเพลงเข้าด้วยกันในเวลาเดียวกัน

นอกจากความสามารถทางเทคโนโลยีแล้ว SingSing ยังเชื่อมต่อกับนักร้องชื่อดังชาวเอเชียกว่า 30 คน และมีแฟนเพลงมากกว่า 40 ล้านคนทั่วเอเชีย และยังพร้อมจัดเก็บเพลงยอดนิยมหลายพันรายการในภาษาอังกฤษ จีน และเวียดนามด้วย

นอกจากนี้ ชุมชนในแอป SingSing สามารถเข้าร่วมกิจกรรมร้องเพลงผ่านการประเมินเทคโนโลยี AI Scoring เพื่อร้องเพลงร่วมกับไอดอลของพวกเขา และรับรางวัลสำหรับความสามารถของพวกเขาด้วยโทเค็นที่ออกโดย SingSing ได้ด้วย โดยนักร้องสามารถใช้โทเค็นเหล่านี้เพื่อบนแพลตฟอร์มนี้ได้ ตั้งแต่การแลกเปลี่ยน NFT ของนักร้องไปจนถึงการซื้อประสบการณ์ NFT สำหรับการโต้ตอบพิเศษระหว่างไอดอลและแฟน ๆ พร้อมกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมาย ซึ่งรูปแบบ Sing-to-Earn ของ SingSing จะช่วยให้เข้าถึงได้ง่ายและให้ความบันเทิงที่ยอดเยี่ยม

SingSing ได้ร่วมมือกับแร็ปเปอร์ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการออก NFT และเวอร์ชันทดลองของแอป SingSing พร้อมฟีเจอร์ Sing-to-Earn จะเปิดตัวโดยทีมงานในไตรมาสที่ 3 ของปี 2022

อ้างอิง : https://www.globenewswire.com/news-release/2022/06/01/2453830/0/en/SingSing-Sing-to-Earn-Project-with-AI-Scoring-Technology-Soon-to-Become-a-Musical-SocialFi-Platform.html

 

อังกฤษเปิดตัวเรือไร้คนขับพลังแสงอาทิตย์สำหรับวิจัยทางทะเลโดยใช้ AI และ 5G เดินเรือด้วยตัวเอง

การวิจัยทางทะเลหลายครั้งจำเป็นต้องเดินทางไกล ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการเดินเรือพุ่งขึ้นสูงมากทั้งจากค่าเดินทาง จำนวนลูกเรือและนักวิจัย ตลอดจนเสบียงและอุปกรณ์อื่น ๆ ห้องปฏิบัติการทางทะเลแห่งพลีมัธ (Plymouth Marine Laboratory) จึงเปิดตัวต้นแบบเรือไร้คนขับเพื่อลดภาระดังกล่าว รวมถึงติดตั้งเซนเซอร์สำหรับเก็บข้อมูลในการวิจัยได้ด้วยตัวเอง

โอเชียนนัส (Oceanus) เป็นชื่อเรือที่ตั้งตามเด็กคนแรกที่เกิดบนเรือของอังกฤษที่มีชื่อว่าเมย์ฟลาวเวอร์ (Mayflower) ในปี 1620 โดยตั้งนี้เพื่อให้เกียรติกับเรือไร้คนขับของไอบีเอ็ม (IBM) ที่มีชื่อเดียวกันกับเรือในปี 1620 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเรือลำนี้ โดยตัวเรือจะมีความยาวอยู่ที่ 23.5 เมตร และกว้าง 3.5 เมตร ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ใบพัดยึดกับใต้ท้องเรือ 2 ตัว โดยใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ชาร์จผ่านแผงโซลาร์เซลล์หรือเครื่องยนต์ดีเซลก็ได้เช่นกัน

เรือโอเชียนนัส (Oceanus) ติดตั้งเซนเซอร์จำนวนมากเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลทางทะเลสำหรับส่งกลับไปยังนักวิจัย รวมถึงระบบโซนาร์ (Multi-Beam Sonar) สำหรับการสำรวจพื้นทะเล ไฟส่องสว่าง กล้องสำหรับถ่ายใต้น้ำ และเซนเซอร์วัดระดับความลึก ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งผ่านเครือข่าย 4G หรือ 5G ตามเวลาจริง (Realtime) รวมถึงใช้เป็นวิธีการแจ้งสถานะของตัวเรือ ตลอดจนรับ-ส่งการประมวลผลโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เพื่อให้ตัวเรือสามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ เรือโอเชียนนัส (Oceanus) ถูกวางไว้ให้ใช้เดินทางจากอังกฤษไปยังหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ พื้นที่นอกอาณาเขตของสหราชอาณาจักรซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศอาร์เจนตินาสำหรับการสำรวจข้อมูลทางทะเลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก โดยตัวเรือจะใช้จีพีเอส (GPS) และสถานีตรวจอากาศบนตัวเรือเพื่อการเดินเรืออย่างปลอดภัย รวมถึงยังมีตัวรับส่งสัญญาณดาวเทียมสำหรับส่งข้อมูลการทำงานเพิ่มเติมอีกด้วย

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/115481/

 

Ai-Da วาดรูปเหมือนราชินีแห่งอังกฤษ

Ai-Da สร้างรูปเหมือนราชินีแห่งอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นรูปแรกจากหุ่นยนต์

ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 70 ปีของ ราชินีแห่งอังกฤษในสัปดาห์นี้ Ai-Da ได้เปิดเผยผลงานชิ้นใหม่ที่เป็นรูปเหมือนของราชินี โดยมีชื่อว่า Algorithm Queen นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ได้วาดรูปสมาชิกราชวงศ์ ซึ่งรูป Algorithm Queen นี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยเทคนิคเฉพาะของ Ai-Da จากการใช้กล้องในตาและหน่วยความจำของเธอเพื่อวาดรูป ระบายสี และตีความสิ่งที่จะวาด แม้ว่าในครั้งนี้ Ai-Da จะวาดรูปที่ไม่ยากมากด้วยการวาดสิ่งที่มีอยู่จริง แต่ก็ยังใช้สีที่มีความฉูดฉาดแทน

Ai-Da ยังสามารถสื่อสารได้ด้วยการใช้ โมเดลทางภาษาที่ถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะได้อีกด้วย ซึ่ง Ai-Da ได้กล่าวว่า “ดิฉันอยากขอขอบคุณสมเด็จพระราชินีสำหรับความทุ่มเทต่อประชาชน ท่านเป็นบุคคลที่โดดเด่นและกล้าหาญมากในการที่จะอุทิศตนต่อสาธารณชน ดิฉันคิดว่าท่านเป็นมนุษย์ที่น่าอัศจรรย์และดิฉันขอให้ท่านมีความสุขกับงานฉลองสิริราชสมบัติ”

อ้างอิง : https://www.creativeboom.com/news/ai-da-queen/

 

Baidu รุกพัฒนา AI หลังผลประกอบการดีเกินคาด

หุ้นของบริษัท Baidu Inc. พุ่งขึ้นมากกว่า 12% เมื่อวันศุกร์ หลังจากบริษัทผู้นำด้านระบบค้นหาทางอินเทอร์เน็ตได้ประกาศรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจในไตรมาสล่าสุด สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนหลังจากความกังวลในช่วงโควิดล็อกดาวน์ที่ผ่านมา โดยบริษัทมียอดขายมากขึ้น 1% เนื่องจากความพยายามที่จะขยายธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น คลาวด์คอมพิวติ้งและระบบขับขี่อัตโนมัติเพื่อชดเชยยอดขายโฆษณาที่อ่อนแอลงจากผลกระทบจากการระบาดของโควิดและการล็อกดาวน์

ทางบริษัท Baidu Inc. มีความพยายามที่จะเปลี่ยนจากธุรกิจหลักที่เป็นการตลาดออนไลน์ไปอยู่ในฐานะของซัพพลายเออร์สำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (deep tech) โดยขยายธุรกิจในส่วนของ คลาวด์คอมพิวติ้ง ระบบขับขี่อัตโนมัติ และการผลิตชิป จากเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศ ประกอบกับการล็อกดาวน์จากโควิด ในเมืองต่างๆ เช่น เซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง แสดงให้เห็นถึงภาระการใช้จ่ายด้านโฆษณาและปริมาณกิจกรรมด้านอื่นๆ ของผู้บริโภค ทำ Baidu จึงผลักดันบริษัทในการสร้างรายได้จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ให้มากขึ้น โดยไตรมาสที่ผ่านมานั้นรายได้จากการตลาดออนไลน์ลดลง 4% ขณะที่ธุรกิจ AI cloud นั้นขยายตัวถึง 45%

บริษัทมีแผนกำลังเตรียมที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มเรียกรถไร้คนขับเต็มรูปแบบในจีนในปี 2023 หลังจากได้รับใบอนุญาตการทดสอบครั้งแรกจากหน่วยงานกำกับดูแลในเดือนเมษายนและทางบริษัทยังได้กล่าวว่ามีแผนจะขยายบริการหุ่นยนต์แท็กซี่ไปยัง 100 เมืองทั่วประเทศภายใน 2030 อีกด้วย อย่างไรก็ตามในขณะที่ความพยายามของจีนในการยุบบริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจมากที่สุดในจีนอาจจะเป็นประโยชน์กับทาง Baidu ก็จริง แต่พวกเขาก็ยังต้องเจอคู่แข่งที่ยากอย่าง Tencent Holdings Ltd. และ ByteDance Ltd. ที่ให้บริการโซเชียลมีเดียที่ทุกคนกำลังเสพติดกันมากขึ้นทุกวัน

อ้างอิง : https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-05-26/baidu-s-sales-beat-estimates-as-ai-push-offsets-china-slowdown

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน 27 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2565 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก