ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 1 เดือนตุลาคม 2022

นักวิจัยเผยสแกนดวงตาทำนายโรคหัวใจได้อย่างแม่นยำในเวลาไม่ถึงนาที

นักวิจัยกล่าวเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่สแกนดวงตาสามารถทำนายความเสี่ยงต่อโรคหัวใจของบุคคลได้อย่างแม่นยำในเวลาไม่ถึงนาที
การค้นพบครั้งนี้ทำให้จักษุแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถตรวจคัดกรองโรคหัวใจและหลอดเลือดบนถนนได้เลยโดยใช้เพียงกล้องซึ่งไม่ต้องตรวจเลือดหรือตรวจความดันโลหิตเพิ่มเติม 

OSO MNI Media ได้เขียนเกี่ยวกับหัวข้อนี้โดยละเอียดบนเว็บไซต์ของเขา

นักวิจัยพบว่าการถ่ายภาพหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงของเรตินาโดยใช้ AI สามารถระบุความเสี่ยงของโรคหัวใจ การเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง โดยพวกเขากล่าวว่าผลลัพธ์นี้สามารถเปิดประตูสู่การทดสอบที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูงที่จะเป็นโรคหัวใจที่ไม่ต้องการการเดินทางไปคลินิก

นักวิจัยได้พัฒนาเครื่องมือที่มีชื่อว่า “Quartz” ที่มีระบบ AI เพื่อประเมินผลของการถ่ายภาพหลอดเลือดจอประสาทตา เพื่อทำนายสุขภาพของหลอดเลือดและการเสียชีวิต โดยพวกเขาได้ใช้เครื่องมือนี้ในการสแกนภาพจากผู้เข้าร่วม UK Biobank จำนวน 88,052 คนซึ่งจะทำให้ AI นั้นใช้ประโยชน์จากข้อมูลจากผู้เข้าร่วม รวมถึงประวัติการสูบบุหรี่ ยารักษาความดันโลหิตสูง และอาการหัวใจวายก่อนหน้านี้เพื่อพัฒนาแบบโมเดลการทำนายโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และการเสียชีวิตจากโรคระบบไหลเวียนโลหิต

ซึ่งนักวิจัยพบว่าข้อมูลเรตินาที่คำนวณโดย Quartz มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับโรคหัวใจและหลอดเลือด การเสียชีวิต และโรคหลอดเลือดสมอง พวกเขายังบอกว่า การคาดการณ์ความเสี่ยงของหลอดเลือดด้วย AI นั้นเป็นไปโดยอัตโนมัติทั้งหมด อีกทั้งยังมีต้นทุนต่ำ และมีศักยภาพในการเข้าถึงประชากรในชุมชนที่มากขึ้น เนื่องจากความพร้อมใช้งานของมัน และเนื่องจากไม่จำเป็นต้องเก็บตัวอย่างเลือด

อ้างอิง : https://www.theguardian.com/society/2022/oct/04/ai-eye-checks-can-predict-heart-disease-risk-in-less-than-minute-finds-study

Meta เปิดตัว Make-A-Video แปลงข้อความเป็น “วิดีโอ”

AI สร้างข้อความเป็นรูปภาพของกลายเป็นหัวข้อข่าวสุดฮิตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้เหล่านักวิจัยกำลังก้าวไปสู่พรมแดนถัดไปซึ่งมันก็คือ AI สร้างข้อความเป็น “วิดีโอ”

ทีมวิศวกร machine learning จาก Meta บริษัทแม่ของ Facebook ได้เปิดตัวระบบใหม่ที่ชื่อว่า Make-A-Video โมเดล AI ที่อนุญาตให้ผู้ใช้พิมพ์คำอธิบายคร่าวๆ ของฉากในคลิปวิดีโอที่ต้องการจะสร้าง และมันจะทำการสร้างวิดีโอสั้นที่ตรงกับข้อความของพวกเขาขึ้นมา ซึ่งวิดีโอเหล่านี้ยังสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นวิดีโอที่ถูก AI สร้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันยังมีวัตถุเบลอและภาพเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นธรรมชาติ

โดยคลิปที่ถูกสร้างขึ้นมาจะมีความยาวไม่เกินห้าวินาทีและไม่มีเสียง แม้ตอนนี้ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะยังดูไม่สมจริงแต่ผลลัพธ์ของโมเดล AI ดังกล่าวจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคตอันใกล้ เมื่อเปรียบเทียบกับระบบการแปลงข้อความเป็นรูปภาพที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี ตัวสร้างภาพด้วย AI นั้นได้พัฒนาจากการสร้างภาพที่เข้าใจยากและไม่หลากหลายไปเป็นภาพที่มีเนื้อหาที่เหมือนจริงเสมือนภาพถ่าย

นักวิจัยของ Meta ได้บอกว่า Make-A-Video นั้นทำการเรียนรู้ข้อมูลจากรูปภาพและคำอธิบายภาพ รวมถึงฟุตเทจวิดีโอด้วย ซึ่งเนื้อหาการฝึกอบรมสำหรับตัว AI นั้นจะมาจากวิดีโอหลายล้านรายการซึ่งมีความยาวหลายแสนชั่วโมง ซึ่งรวมถึงฟุตเทจวิดีโอสต๊อกที่สร้างโดยไซต์ต่างๆ เช่น Shutterstock

โดยปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่กังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ของเครื่องมือนี้ที่อาจจะสามารถนำมาใช้สำหรับ การสร้างข้อมูลที่บิดเบือน การทำโฆษณาชวนเชื่อ และอาจจะรวมไปถึง Deepfakes ด้วย

Meta ได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับงานนี้ว่า “พวกเขาได้ทำการแชร์ผลการวิจัยเกี่ยวกับ AI นี้อย่างเปิดเผยกับชุมชนสำหรับข้อเสนอแนะ และพวกเขาจะใช้กรอบการพัฒนา AI ที่มีรับผิดชอบของเขาต่อไปสำหรับปรับแต่งและพัฒนาแนวทางต่อเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่นี้”

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2022/9/29/23378210/meta-text-to-video-ai-generation-make-a-video-model-dall-e

SKY ICT ปั้น “ศูนย์ AI ธรรมศาสตร์” สร้าง Tech Talant สู่อีโคซิสเต็ม

สกาย ไอซีที มุ่งสร้าง Tech Talent รุ่นใหม่สู่ Tech Ecosystem ร่วมจัดตั้ง “ศูนย์ปัญญาประดิษฐ์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat AI Center)” ภายใต้กระทรวงดีอีเอส และพันธมิตรภาคเอกชน เพื่อให้ศูนย์แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมความรู้ด้าน AI ที่ทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย

นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ผู้นำด้านการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการ Digital Platform และ AI-Empowered Solution ระดับประเทศ กล่าวว่า สกาย ไอซีที ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลัก ส่งมอบเทคโนโลยีนำร่องด้าน AI (AI Demos) แก่ Thammasat AI Center เพื่อเพิ่มพูนทักษะและองค์ความรู้ด้าน AI ให้แก่นักศึกษา และบุคคลทั่วไปให้สามารถขึ้นสู่การเป็น Tech Talent ที่จะเติมเต็ม Tech Ecosystem ของประเทศไทยให้แข็งแกร่งและพร้อมเดินหน้าสู่อนาคต

จุดเด่นของเทคโนโลยีนำร่องด้าน AI สุดล้ำที่สกาย ไอซีทีนำมาร่วมสนับสนุนการจัดตั้งThammasat AI Center ในครั้งนี้ เช่น SenseStudio โซลูชันควบคุมการเข้าออกพื้นที่ที่กำหนดได้ล่วงหน้า โดยนำเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI แบบเรียลไทม์ ตั้งแต่เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าและร่างกาย ระบบนับจำนวนคน และเทคโนโลยีการอ่านอักขระด้วยแสง (OCR) นำภาพวิดีโอมาวิเคราะห์เพื่อให้สามารถพิสูจน์ตัวตนของผู้มาเยือน หรือช่วยจัดการการเข้าถึงเฉพาะพื้นที่ได้

SenseCare แพลตฟอร์มด้านสุขภาพอัจฉริยะที่ผสานการทำงานของ AI กับเทคโนโลยีหลังการประมวลภาพ 3 มิติ (3D Image Post-Processing Technology) มาช่วยวิเคราะห์ภาพเอกซเรย์ช่องอก ภาพ CT Scan หัวใจ ปอด และตับ และประมวลผลโดยอิงจากผลวิจัย การวิเคราะห์ทางการแพทย์ และแผนการรักษาในอดีต เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยโรคเบื้องต้นและการวางแผนรักษาได้อย่างรวดเร็ว

SenseEducation แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้เกี่ยวกับคำสั่งพื้นฐานและระบบการทำงานของ AI SenseMARS และ SenseMARS Effect โซลูชันที่ผสานโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกัน พร้อมซอฟต์แวร์ช่วยประมวลผลและแปลงโฉมผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านความงามได้

“การพัฒนา Tech Talent ไม่อาจให้แค่ความรู้ทางทฤษฎีเพียงอย่างเดียว หากต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของคนเหล่านี้ เราหวังว่า AI Demos ที่สกาย ไอซีทีตั้งใจส่งมอบในครั้งนี้จะช่วยยกระดับการศึกษาด้าน AI ในประเทศไทยให้ทัดเทียมระดับสากล พร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดโลกทัศน์ของเหล่าว่าที่ Tech Talent สายเลือดใหม่ให้สามารถเชื่อมต่อทุกองค์ความรู้สู่การสร้างสรรค์ต่อยอดเทคโนโลยี AI ให้เกิดประโยชน์ต่อด้านเศรษฐกิจและสังคมไทย” นายสิทธิเดช กล่าว

ด้าน รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งขับเคลื่อนการเรียนรู้ด้านนวัตกรรมดิจิทัลและส่งเสริมพัฒนาทักษะ ไม่ว่าจะการผลิตบัณฑิตด้านดิจิทัลเพื่อออกไปรับใช้สังคม การพัฒนาหลักสูตรที่ส่งเสริมทักษะทางดิจิทัลทั้งในรูปแบบ online และ offline เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้เพื่อ upskill หรือ reskill ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม นอกจากนี้คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยยังได้ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการทางด้านดิจิทัล รวมไปถึงการให้คำปรึกษาให้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม

“มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภูมิใจที่ได้ริเริ่มการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทางด้านปัญญาประดิษฐ์ในอีกมิติหนึ่ง คือการสถาปนาศูนย์ปัญญาประดิษฐ์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการฝึกอบรมของนักเรียน นักศึกษา ภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป ตลอดจนเป็นแหล่งการจัดทำวิจัยทางด้านปัญญาประดิษฐ์ของนักวิจัยในระดับชาติและนานาชาติ” รศ.เกศินี กล่าว

สำหรับบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY บริษัท Tech Company เต็มรูปแบบที่เน้นการพัฒนานวัตกรรม การให้บริการ Digital Platform และ AI-Empowered Solution ให้ลูกค้าอย่างครบวงจร เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะของ SKY

อ้างอิง : https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9650000093890

ซีนัส เทคโนโลยี เปิดตัวเครื่องออกกำลังกายอัจฉริยะตอบโจทย์คนรักสุขภาพในยุคของ AI

เมื่อเทคโนโลยีการออกกำลังกายก้าวหน้าสู่ระบบ AI Technology ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพหรือคนธรรมดาที่รักสุขภาพก็ยกระดับการออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ ด้วยเล็งเห็นถึงช่องว่างที่ยังมีพื้นที่ให้แจ้งเกิด บริษัท ซีนัส เทคโนโลยี จำกัด ใช้ประสบการณ์และความถนัด ในเรื่องวิชาการมา 28 ปี นำเข้าอุปกรณ์ออกกำลังกาย จากยุโรปและอเมริกา เน้นนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ มีงานวิจัยรับรองในระดับสากล ล่าสุด ได้เปิดตัวเครื่องออกกำลังกาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ผู้ที่รักการออกกำลังกายในยุค AI ในงาน Asia Fitness Conference2022 ที่ไบเทค บางนา โดยมีเจ้าของนวัตกรรม และผู้บริหาร รวมทั้งโค้ชชื่อดังร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

นายอาคม นาถวรธาดา CEO บริษัท บริษัท ซีนัส เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ด้วยเทรนด์การออกกำลังกายที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความทันสมัยของอุปกรณ์กีฬา และวิทยาศาสตร์การกีฬาต่างๆ ทำให้จักรกลอัจฉริยะ ถูกนำมาใช้ในเครื่องออกกำลังกาย ขณะเดียวกันผลของการแพร่ระบาดโควิด19 ก็มีส่วนที่ทำให้คนมองหาทางเลือกใหม่ๆ ต้องการความเป็นส่วนตัว มีผู้ฝึกสอนในระบบทางไกลได้

“ผมมองว่าเครื่องออกกำลังยุคนี้ต้องเป็น 2 way คือเพิ่มหลักการชีวกลศาสตร์การกีฬาที่สามารถตรวจสอบแรง ความเร็ว มุม ระยะทางต่างๆ เพื่อช่วยปรับการออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังเป็นเครื่องที่ช่วยฝึก,สอนการฝึก ซึ่งSintesi ได้รวมอุปกรณ์ทั้งหมดในยิมรวมไว้ในเครื่องเดียว มีโปรแกรมตั้งค่าที่ชาญฉลาดและหลากหลาย เพียงแค่ตั้งค่าที่ต้องการ ระบบ AI จะคอยติดตามช่วยให้ทำท่าทางการออกกำลังกายให้ถูกต้อง ความหนักเบาที่ร่างกายต้องแบกรับนั้นเหมาะสมหรือเปล่า หากไม่เหมาะสมระบบจะช่วยวิเคราะห์และปรับให้เหมาะสมที่สุดให้ เพื่อให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังเก็บข้อมูลนำไปดูวิวัฒนาการการพัฒนาร่างกายของผู้ฝึก หรืองานวิจัยต่อได้ และยังมี Virtual Coach อยู่ในเครื่องเป็นผู้ช่วย”
“จุดเด่นที่คนอื่นไม่มี คือเมื่อมีงานวิจัยเกี่ยวกับการออกกำลังกายชุดใหม่ขึ้นมา ข้อมูลความรู้เหล่านั้นจะถูก Download ลงไปในเครื่องเพื่อให้เครื่องทันสมัยตามหลักวิชาการตลอด นั่นแปลว่า Sintesi จะเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ไม่มีวันเอาท์
เครื่องนี้ ไม่ได้ถูกสร้างมาเพียงเพื่อรองรับการใช้งานในหมู่นักกีฬาอาชีพเท่านั้น ทว่าตอบโจทย์การใช้งานด้านสุขภาพสำหรับทุกคน เช่น ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วย หรือผู้มีอาการบาดเจ็บ ก็สามารถใช้เครื่องออกกำลังกายนี้เพื่อฟื้นฟูร่างกายและกล้ามเนื้อให้กลับมาแข็งแรงได้”

โดยผู้ที่คิดค้นเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ คือ Mr.Alessandro Englaro CEO & Cofondaotre Akuis Tech “ผมเคยเป็นวิศวกรการบิน และเคยอยู่ในทีมพัฒนารถยนต์เฟอร์รารี จึงได้ใช้ความรู้ด้านกลศาสตร์และไฟฟ้า มาผสมผสานกับเทคโนโลยีด้านฟิตเนสออกแบบ Sintesi ก่อนที่จะนำออกจำหน่าย เราได้ทำการทดสอบโดยให้นักกีฬามืออาชีพทดลองใช้ ซึ่งผลตอบรับออกมาดี และได้รับรางวัลการออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมระดับนานาชาติ เช่น Archiproducts Design Awards –Winner 2021 หรือรางวัลจากงานฟิตเนสระดับโลก Innovation Trend Award FIBO ที่ประเทศเยอรมนี” เจ้าของนวัตกรรม Sintesi กล่าว

ทั้งนี้ ซีนัส เทคโนโลยีฯ ยังได้แนะนำเครื่องออกกำลังกาย YO ROLLER สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่ องค์การ NASA ,SpaceX, Blue Origin ได้นำสินค้าไปติดตั้งในการท่องอวกาศ,VO2 Master เครื่องประเมินประสิทธิภาพของการหายใจ ใช้ง่ายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ โดยเครื่องมือนี้มีใช้ในสมาคมคมฟุตบอลระดับโลก เช่น ทีมลิเวอร์พูล,ทีมเชลซี ,Homing by Tecnobody ยักษ์ใหญ่สินค้า Innovation ในยุโรป นำเครื่องมือขนาดเล็ก ฝึกและสอนคนได้ทุกระดับผ่านระบบกล้อง 3D และ Software ,Tobiipro แว่นตาวิเคราะห์ทิศทางการเคลื่อนไหว แบบไร้สาย ทำงานร่วมกับซอฟต์MasterCard กำลังเปิดตัวระบบเพื่อประเมินความเสี่ยงทางอาชากำกับกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลบนเครือข่าย โดยได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Crypto Secure เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา AI ซึ่งจะใช้ควบคุมข้อมูลบนบล็อกเชนและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่ผ่านมาผู้ใช้งานจำนวนมากไว้ใจธนาคารและสถาบันทางการเงินซึ่งแสดงคะแนนความเสี่ยงทางอาชญากรรมอยู่ในโซนสีแดงหรือระดับสูงสุด ทำให้ดูเหมือนพวกเขาจะยอมรับว่าการเกิดอาชญากรรมทางการเงินนั้นเป็นเรื่องทั่วไป อาชญากรรม Crypto มูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ MasterCard กล่าวว่ากำลังเปิดตัวบริการนี้เนื่องจากจำนวนอาชญากรรมริโตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงโดยได้มีเม็ดเงินมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ไหลเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลแบบผิดกฎหมายตามข้อมูลจาก Chainalysis บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ในปีนี้ยังได้เห็นการแฮกและหลอกลวง crypto อยู่เป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีชื่อเสียงก็ตาม อีกทั้งโปรโตคอ DeFi ก็ได้ส่งสัญญาณความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก 60% ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2022 อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2022 ที่ผ่านมาได้การขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลไปแล้วกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์หากเทียบกับ 1.2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว MasterCard ขับเคลื่อนริโต Crypto Secure จะถูกขับเคลื่อนโดย CipherTrace บริษัท Startup ด้านความปลอดภัยของบล็อกเชนซึ่ง MasterCard ร่วมเป็นพาร์เนอร์มาได้ 1 ปีเพื่อสนับสนุนความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับริโต ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลและอัลกอริธึมที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัททำให้ Menlo Park ช่วยให้ธุรกิจและหน่วยงานของรัฐตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ crypto ได้แวร์หลากหลาย วิเคราะห์ร่วมกับคลื่นสมอง ในทางการตลาดสามารถวิเคราะห์การมองเห็นและความสนใจของผู้บริโภค รวมทั้งในการทำงานเพื่อลดอุบัติเหตุในโรงงาน จนถึงการฝึกสอนผู้ป่วยออร์ทิสติค ในงานนี้ยังได้เชิญ โค้ช- มิกกี้ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา มาทดสอบเครื่องออกกำลังกายอัจฉริยะด้วย

อ้างอิง : https://mgronline.com/entertainment/detail/9650000094396

MasterCard เตรียมเปิดตัวระบบ AI สำหรับตรวจจับธุรกรรม Crypto ผิดกฎหมาย

MasterCard กำลังเปิดตัวระบบเพื่อประเมินความเสี่ยงทางอาชญากรรมกับกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลบนเครือข่าย โดยได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Crypto Secure เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา AI ซึ่งจะใช้ควบคุมข้อมูลบนบล็อกเชนและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่ผ่านมาผู้ใช้งานจำนวนมากไว้ใจธนาคารและสถาบันทางการเงินซึ่งแสดงคะแนนความเสี่ยงทางอาชญากรรมอยู่ในโซนสีแดงหรือระดับสูงสุด ทำให้ดูเหมือนพวกเขาจะยอมรับว่าการเกิดอาชญากรรมทางการเงินนั้นเป็นเรื่องทั่วไป อาชญากรรม Crypto มูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ MasterCard กล่าวว่ากำลังเปิดตัวบริการนี้เนื่องจากจำนวนอาชญากรรมคริปโตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงโดยได้มีเม็ดเงินมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ไหลเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลแบบผิดกฎหมายตามข้อมูลจาก Chainalysis บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ในปีนี้ยังได้เห็นการแฮกและหลอกลวง crypto อยู่เป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีชื่อเสียงก็ตาม อีกทั้งโปรโตคอล DeFi ก็ได้ส่งสัญญาณความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก 60% ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฏาคม 2022 อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2022 ที่ผ่านมาได้การขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลไปแล้วกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์หากเทียบกับ 1.2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว MasterCard ขับเคลื่อนคริปโต Crypto Secure จะถูกขับเคลื่อนโดย CipherTrace บริษัท Startup ด้านความปลอดภัยของบล็อกเชนซึ่ง MasterCard ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์มาได้ 1 ปีเพื่อสนับสนุนความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลและอัลกอริธึมที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัททำให้ Menlo Park ช่วยให้ธุรกิจและหน่วยงานของรัฐตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ crypto ได้

อ้างอิง : https://th.investing.com/news/cryptocurrency-news/article-87896

อีลอน มัสก์ เปิดตัวหุ่นยนต์ออปติมัส ฮิวแมนนอยด์คล้ายมนุษย์เตรียมใช้งานในโรงงานรถยนต์ Tesla

วันที่ 30 กันยายน ตามเวลาในประเทศสหรัฐอเมริกา อีลอน มัสก์ ผู้บริหารบริษัท เทสลา (Tesla) เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดของการพัฒนาหุ่นยนต์ออปติมัส (Optimus) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ภายในงาน Tesla AI Day 2022

หุ่นยนต์ออปติมัส (Optimus) ถูกเปิดตัวบนเวทีและเดินออกมาทักทายแขกผู้ร่วมงาน สื่อมวลชน และผู้รับการถ่ายทอดสดงาน Tesla AI Day 2022 ผ่านทางออนไลน์จากทั่วโลก ทีมงานวิศวกรของบริษัท Tesla ใช้เวลาในการพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นนี้นานกว่า 13 เดือน นับจากการเปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา

ต้นแบบหุ่นยนต์สามารถเดินได้ตัวเองในลักษณะคล้ายมนุษย์ แม้จะไม่สามารถวิ่งด้วยความเร็วได้ในระยะแรก หุ่นยนต์โบกมือทักทายผู้เข้าร่วมงานในลักษณะเดียวกับหุ่นยนต์ Asimo ของบริษัท ฮอนด้า (Honday), หุ่นยนต์ แอสลาส (Atlas) ของบริษัท บอสตัน ไดนามิกส์ (Boston Dynamic) และหุ่นยนต์ ไซเบอร์วัน (CyberDog) ของบริษัท เสียวหมี่ (Xiaomi) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

สำหรับต้นทุนของหุ่นยนต์ออปติมัส (Optimus) อีลอน มัสก์ กล่าวว่าอาจมีราคาต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 756,000 บาท เพื่อให้สามารถผลิตได้ในปริมาณมากสำหรับใช้งานในโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ในอนาคต

“เป้าหมายของเรา คือ การสร้างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่มีประโยชน์โดยเร็วที่สุด โดยใช้รูปแบบการพัฒนาเดียวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัท เพื่อให้สามารถสร้างหุ่นยนต์ในปริมาณมากโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำแต่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูง” อีลอน มัสก์ ผู้บริหารบริษัท เทสลา (Tesla) กล่าวเพิ่มเติมบนเวทีงาน Tesla AI Day 2022

เนื่องจากเป็นหุ่นยนต์ต้นแบบทำให้มันสามารถเดินด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น้ำหนัก 160 ปอนด์ หรือ 72.5 กิโลกรัม ขนาดพอ ๆ กับมนุษย์ที่มีร่างกายไม่สูงมากนัก ระบบพลังงานไฟฟ้าจากชุดแบตเตอรี่ขนาด 2.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) หุ่นยนต์ตัวนี้สามารถยกสิ่งของน้ำหนักได้ 45 ปอนด์ หรือ 20 กิโลกรัม เพียงพอสำหรับการทำงานง่าย ๆ ภายในโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเทสลา (Tesla) ตามแผนการที่วางเอาไว้

นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นของบริษัท เทสลา (Tesla) ซึ่งมีวิสัยทัศน์นำหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์มาใช้งานในโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัท ซึ่งจะสามารถช่วยให้การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทำได้รวดเร็วมากขึ้น ลดการใช้พนักงานที่เป็นมนุษย์ อย่างไรก็ตามในระยะแรก หุ่นยนต์ออปติมัส (Optimus) อาจทำงานง่าย ๆ ที่มีความซับซ้อนน้อยเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานของพนักงานที่เป็นมนุษย์

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/126661/

Meta เปิดตัวเครื่องมือซอฟต์แวร์ AI ช่วยความสะดวกสลับระหว่างชิป Nvidia-AMD

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ว่า Meta Platforms Inc บริษัทแม่ของ Facebook กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าได้เปิดตัวชุดเครื่องมือซอฟต์แวร์ฟรีชุดใหม่สำหรับแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยให้นักพัฒนาสลับไปมาระหว่างชิปพื้นฐานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

แพลตฟอร์ม AI แบบโอเพ่นซอร์สใหม่ของ Meta ใช้เฟรมเวิร์กการเรียนรู้ของเครื่องโอเพนซอร์สที่เรียกว่า PyTorch และช่วยให้โค้ดรันเร็วขึ้นสูงสุด 12 เท่าบนชิป A100 ของ Nvidia Corp หรือเร็วกว่าสูงสุด 4 เท่าใน Advanced Micro ชิป MI250 ของ Devices Inc แต่สิ่งที่สำคัญพอๆ กับการเพิ่มความเร็วคือ ความยืดหยุ่นของซอฟต์แวร์

ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ได้กลายเป็นสมรภูมิสำคัญสำหรับผู้ผลิตชิปที่ต้องการสร้างระบบนิเวศของนักพัฒนาเพื่อใช้ชิปของตน แพลตฟอร์ม CUDA ของ Nvidia ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับงานด้านปัญญาประดิษฐ์

อย่างไรก็ตามเมื่อนักพัฒนาปรับแต่งโค้ดของตนสำหรับชิป Nvidia แล้ว เป็นการยากที่จะเรียกใช้บนหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) จากคู่แข่งของ Nvidia เช่น AMD โดย Meta กล่าวว่าซอฟต์แวร์ได้รับการออกแบบให้สามารถสลับระหว่างชิปได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องล็อก

“การสนับสนุนแบ็คเอนด์ GPU แบบครบวงจรช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์เรียนรู้เชิงลึกมีทางเลือกมากขึ้นสำหรับผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์ด้วยค่าใช้จ่ายในการย้ายที่น้อยที่สุด” Meta กล่าวในโพสต์บล็อก

ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ของ Meta สร้างขึ้นสำหรับงาน AI ซึ่งเมื่ออัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องที่เคยได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับข้อมูลจำนวนมหาศาลมาก่อนจะถูกเรียกใช้เพื่อตัดสินอย่างรวดเร็ว เช่น การตัดสินใจว่าภาพถ่ายนั้นเป็นของแมวหรือสุนัข

David Kanter ผู้ก่อตั้ง MLCommons ซึ่งเป็นกลุ่มอิสระที่วัดความเร็วของ AI กล่าวว่า “นี่เป็นความพยายามของซอฟต์แวร์ที่มีหลายแพลตฟอร์ม และเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำคัญของซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการปรับใช้โครงข่ายประสาทเทียมในการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อการอนุมาน”

อ้างอิง : https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/meta-ai-nvidia-amd-041065

ข่าวNovelAI บริการวาดภาพด้วย AI รูปแบบอนิเมะสุดเจ๋ง

เว็บไซต์ NovelAI บริการวาดภาพด้วย AI รูปแบบอนิเมะสุดเจ๋ง เปิดให้ลองใช้แล้ว เพื่อให้จินตนาการออกมาเป็นภาพได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

วันที่ 3 ตุลาคม 2022 ทางเว็บไซต์ NovelAI บริการเขียนนิยายด้วย AI ได้ประกาศเปิดบริการรูปแบบอย่างเป็นทางการ โดยบริการดังกล่าวคือ การสร้างรูปอนิเมะด้วย AI (Anime Illustration)

ซึ่งทางเว็บไซต์ยังบอกว่า เครื่องมือตัวนี้สามารถสร้างภาพแนวนิเมะได้อย่างหลากหลาย เพื่อที่จะให้จินตนาการของผู้ใช้ออกมาให้เป็นจริงมากที่สุด โดยจะมีโมเดลรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบจำกัดและเต็มรูปแบบ

หลังจากข่าวได้เผยแพร่ออกไปได้มีชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งสนใจทดลองจึงเข้าไปในบริการดังกล่าว ผลปรากฏว่า ผลงานที่ออกมาถือว่าดีเลยทีเดียวจนผู้ใช้ถึงขึ้นตะลึงเลยทีเดียว “มันวาดออกมาได้ดีจนน่ากลัวเกินไปแล้ว!”

หลังจากนั้นเริ่มมีคนเข้ามาใช้งานบริการมากขึ้น และได้มีผู้ใช้โพสต์ภาพผลงานให้เปรียบเทียบกันออกมาให้ได้ชมกัน “เทียบผลงานวาด 30 ชั่วโมงกับผลงาน AI 30 วินาที”
เรียกได้ว่าสิ่งนี้อาจจะเป็นการก้าวกระโดดของวงการก็เป็นได้ แต่ว่าบางคนอาจจะคิดในอีกมุมมองหนึ่งเนื่องจากถ้า AI สามารถทำแบบนี้ได้ในเวลาอันสั้นดังนั้นคนที่ทำงานสายนี้ต้องตกงานในอนาคตไหม

อ้างอิง : https://thethaiger.com/th/news/677593/

DALL-E แปลงข้อความเป็นรูปภาพชื่อดัง เปิดให้ทุกคนสมัครใช้งานแล้วตอนนี้

OpenAI ได้ยกเลิกคิวการรอสำหรับการใช้งาน DALL-E 2 ระบบแปลงข้อความเป็นรูปภาพชื่อดังแล้ว ซึ่งทุกคนสามารถสมัครใช้งาน DALL-E2 ได้ทันทีตอนนี้

ทางบริษัทได้เปิดตัว DALL-E รุ่นแรกในเดือนมกราคม 2021 ซึ่งสร้างความประทับใจให้ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และสาธารณชนด้วยความสามารถในการเปลี่ยนคำอธิบายข้อความให้เป็นภาพที่ไม่เหมือนใคร และตั้งแต่นั้นมา ระบบแปลงข้อความเป็นรูปภาพอื่น ๆ ก็ได้ถูกสร้างขึ้นและแข่งขันกับ DALL-E ในทั้งเรื่องความเร็วและคุณภาพ

OpenAI ซึ่งได้รับเงินทุนจำนวนมากจาก Microsoft ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ที่ผ่านมาได้ระมัดระวังเกี่ยวกับการเปิดตัว DALL-E ต่อสาธารณะเป็นอย่างมาก โดยผู้เชี่ยวชาญสังเกตว่าอาจจะเป็นเพราะความสามารถของระบบแปลงข้อความเป็นรูปภาพในการผลิตภาพเปลือยและภาพที่เหมือนจริงนั้นอาจสร้างความเสียหายได้ เช่นการถูกนำไปใช้สำหรับ ทำโฆษณาชวนเชื่อ เผยแพร่ข้อมูลที่ผิด และอื่นๆ

ซึ่งทาง OpenAI ได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อต่อสู้กับผลกระทบเหล่านั้น รวมถึงระบบการกรองภาพทางเพศและความรุนแรงออกจากโมเดล และปฏิเสธที่จะสร้างภาพโดยอิงจากข้อความที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งที่บางคนมองว่าเป็นแนวทางที่เข้มงวดเกินไป โดยมีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามของบริษัทในการแก้ไขการมีอคติของโมเดลของทาง OpenAI ว่า “hacky” ตัวอย่างเช่น DALL-E แอบแทรกวลีเช่น “ชายผิวดำ” และ “ผู้หญิงเอเชีย” ลงในข้อความของผู้ใช้ที่ไม่ระบุเพศหรือเชื้อชาติเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบสร้างภาพคนผิวขาวมากเกินไป ซึ่งถึงแม้มันจะช่วยลดอคติในผลลัพธ์ของ DALL-E แต่ผู้ใช้บางคนเห็นว่ามันก่อให้เกิดปัญหาการสร้างภาพที่ไม่ตรงกับข้อความของพวกเขา

ตอนนี้ทุกคนที่ลงทะเบียนเพื่อใช้งาน DALL-E จะได้รับ 50 เครดิตฟรี และอีก 15 เครดิตฟรีทุกเดือนหลังจากนั้น ซึ่งแต่ละเครดิตสามารถใช้เพื่อสร้างภาพได้หนึ่งภาพและเครดิตเพิ่มเติมนั้นสามารถซื้อได้ในราคาเริ่มต้นที่ 15 ดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบัน OpenAI เปิดเผยว่าผู้ใช้งาน DALL-E กว่า 1.5 ล้านคนกำลังสร้างภาพมากกว่า 2 ล้านภาพในทุกวัน

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2022/9/28/23376328/ai-art-image-generator-dall-e-access-waitlist-scrapped

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน 30 กันยายน – 6 ตุลาคม 2565 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก