สตาร์ตอัป Channel 1 เผยโฉมผู้ประกาศข่าว AI เสมือนจริง ตั้งเป้าให้บริการปี 2024

เทคโนโลยี AI มาไกลถึงวงการผู้ประกาศข่าว กับผลงานของสตาร์ตอัป ‘Channel 1’ ที่ตั้งเป้าพัฒนาผู้ประกาศข่าว AI รายงานข่าวได้สมจริง ตั้งเป้าให้บริการปี 2024
ผู้ประกาศข่าวเอไอเหล่านี้ เป็นผลงานพัฒนาของบริษัทสตาร์ตอัป Channel 1 ซึ่งให้นิยามตัวเองว่าเป็นบริการช่องข่าวสากล ที่นำเสนอข่าวสารรอบโลก โดยจะใช้เอไอเข้ามาช่วยทำงาน ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลและคลิปวิดีโอ จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ จากนั้นนำมาจัดเรียงเรื่องราว เขียนสคริปต์ ใส่ภาพประกอบต่าง ๆ พร้อมให้ผู้ประกาศข่าวเอไอรายงาน

อย่างไรก็ตามทางสตาร์ตอัประบุว่า ตัวเนื้อหาข่าวทั้งหมดนี้ จะไม่ได้เป็นการให้เอไอคิดข่าวขึ้นมาเองแต่อย่างใด แต่จะเป็นการใช้เอไอมาช่วยเรียบเรียงข่าวมากกว่า โดยจะใช้การทำงานของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) ซึ่งสามารถสร้างรูปแบบสนทนาได้คล้ายกับมนุษย์ ผ่านการฝึกวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก และมีทีมงานที่เป็นมนุษย์ คอยตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อให้ข่าวมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด

สำหรับ จุดเด่นของตัวผู้ประกาศข่าวเอไอที่บริษัทพัฒนาขึ้นนี้ คือมีรูปลักษณ์ให้เลือกได้หลากหลายแบบ รวมทั้งยังพูดได้เกือบทุกภาษา และที่สำคัญคือสามารถเล่าข่าวด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถสืบค้นข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อสรุปประเด็นข่าวที่สำคัญด้วยตนเองได้อีกด้วย

ในอนาคต บริษัทตั้งใจนำเสนอบริการรายงานข่าวนี้ ให้กับผู้ใช้งานที่สมัครสมาชิก โดยจะรวมข่าวที่เราสนใจ เอามาเรียงร้อยเป็นรายงานข่าวโดยผู้ประกาศเอไอ ในรูปแบบคลิปวิดีโอบนสมาร์ตโฟน ซึ่งเราสามารถเลือกหน้าตาผู้ประกาศ เลือกภาษา ให้เหมาะกับความต้องการของเราได้ เสมือนได้มีช่องข่าว ที่นำเสนอผลงานได้ตรงกับความชอบของเราจริง ๆ

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/159253/

‘Rightsify’ ส่ง Hydra สร้างเพลงจาก AI พลิกอุตสาหกรรมเพลง-ร่วมต่อยอดธุรกิจ

‘Rightsify’ เปิดตัว Hydra สร้างเพลงจาก AI พัฒนาจากทีมงานจากทีมงานประเทศไทย มาด้วยโมเดลใหม่ ร่วมพลิกเกมอุตสาหกรรมดนตรีสมัยใหม่ – ร่วมต่อยอดภาคธุรกิจสร้างสรรค์เพลงขยายโปรเจกต์ใหม่

อเล็กซ์ เบสทอล กรรมการผู้จัดการ Rightsify กล่าวว่า ได้มีการพัฒนาโมเดล Hydra ของ Rightsify ได้รับการรวบรวมและพัฒนาโดยทีม Rightsify Asia ในประเทศไทย โดยได้เปิดให้ภาคธุรกิจ ศิลปิน และครีเอเตอร์ต่างๆ ได้รับผลงานเพลงที่มีคุณภาพทั้งเรื่องของเสียงและระยะเวลาของเพลงที่ปรับแต่งได้ตามต้องการพร้อมกับสิทธิ์ในการใช้เชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ Rightsify ได้เปิดให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงชุดข้อมูลและโมเดลในการสร้างเพลง AI คุณภาพสูงที่ใกล้เคียงกับเพลงที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยการป้อนข้อความหรือคำสั่งแค่เพียงไม่กี่คำ โดย Hydra ถูกพัฒนามาจากคลังเพลงของ Rightsify ทำให้ Rightsify เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์เพลงเจ้าแรกที่เป็นโมเดล AI ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีผลกระทบในเรื่องของลิขสิทธิ์การใช้งาน ดังนั้นทำให้ภาคธุรกิจ ศิลปิน และครีเอเตอร์สามารถสร้างผลงานเพลงได้อย่างอิสระ ถูกต้อง และมีโมเดลล้ำสมัย

โมเดล Hydra ของ Rightsify ถูกพัฒนาด้วยชุดข้อมูลเพลงกว่า 60,000 เพลงที่มีเครื่องดนตรีมากกว่า 300 ชนิด ทำให้ผู้ใช้สามารถทำเพลงตั้งแต่ 10 วินาทีไปจนถึง 2 นาที เป็นความยาวเพลงที่มากกว่าโมเดลรุ่นอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม นอกจากการทำเพลงแบบเต็มรูปแบบแล้ว Hydra ยังสามารถสร้างเอฟเฟกต์เสียง เช่น เสียงสีขาว คลื่นเสียงบำบัด เสียงฝน เสียงคลื่นทะเล และองค์ประกอบอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ในการการออกแบบเสียงหรือโปรเจกต์เพลงต่างๆ รวมทั้งยังสามารถสร้างแซมเพิลและลูปเพื่อให้ศิลปินนำไปใช้ในผลงานเพลงได้ด้วย

อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1103096

McDonald’s จับมือ Google ใช้ AI รับออเดอร์แทนพนักงาน พลิกวงการธุรกิจอาหาร

McDonald’s หนึ่งในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่โด่งดังทั่วโลก ได้จับมือกับ Google เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Generative AI นำมาใช้กับธุรกิจทั่วโลกกว่า 41,000 สาขา ซึ่งนี่จะเป็นการนำ AI มาใช้ที่น่าสนใจมาก

McDonald’s ต้องการใส่ AI Chatbot ในแอปพลิเคชันของตัวเอง ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 150 ล้านคน เพื่อใช้ AI พูดคุยแทนและสามารถการสั่งอาหารได้แบบอัตโนมัติ ขณะนี้ 40% ของยอดขาย หรือจำนวนกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ มาจากช่องทางดิจิทัลทั้งหมด

แม็คโดนัลด์ ยังต้องการทำคีออส (Kiosks) แบบ Drive-thru กว่าพันแห่งทั่วโลกกำลังจะถูกอัพเกรดให้สามารถรับออเดอร์อัตโนมัติโดยใช้การพูดคุยกับ AI ได้เลย ซึ่งตอนนี้อยู่แล้วกว่า 100 สาขาในสหรัฐอเมริกา

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น McDonald’sกำลังจะสร้าง AI Chatbot ของตัวเอง ที่มีชื่อว่า Ask Pickles ไว้ให้พนักงานแต่ละสาขาใช้เช่นกัน

Ask Pickles แชทบอทตัวนี้ถูกเทรนด้วยคู่มือการทำงาน, การใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆที่เป็นประโยชน์กับการทำงานในร้านอาหาร โดยมีจุดประสงค์หลักคือ ให้พนักงานมีตัวช่วยเวลาเจอปัญหา สามารถถามแชทบอทเพื่อหาคำตอบหรือวิธีการแก้ไขปัญหาได้ทันที และลดต้นทุนด้านเวลาในการจัดการพนักงาน

McDonald’s ยังมีการวางแผนใช้งานการเก็บข้อมูลบน Cloud มาเป็น Edge Computing ของ Google Cloud ซึ่งแต่ละคีออส (Kiosk) จะมีเซิฟเวอร์ของแต่ละพื้นที่ และยังปรับปรุงระบบ Loyalty Program เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าประจำไปปรับปรุงบริการ เช่น แนะนำเมนูต่างๆที่ลูกค้าชื่นชอบด้วยข้อมูลที่เชื่อมโยงกันทั้งระบบ

อ้างอิง : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/846072

Meta จับมือ Ray-Ban พัฒนาฟีเจอร์ AI ขั้นสูงสำหรับแว่นตาอัจฉริยะ

Meta กำลังเปิดตัวการทดสอบสำหรับฟีเจอร์ AI ขั้นสูงบนแว่นตาอัจฉริยะ Meta Ray-Ban บริษัทได้ประกาศเปิดตัวความสามารถ AI หลากหลายรูปแบบที่ใช้ประโยชน์จากกล้องและไมโครโฟนของแว่นตาเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของผู้ใช้

Mark Zuckerberg จัดแสดงการอัปเดตบน Instagram โดยใช้แว่นตาเพื่อค้นหาคำแนะนำด้านแฟชั่นและทดสอบฟีเจอร์การแปลและคำบรรยาย Zuckerberg กล่าวถึงผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมกับผู้ช่วย Meta AI โดยคาดหวังว่าจะสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้สวมใส่ได้เห็นหรือสิ่งที่อยู่รอบตัวของพวกเขา

ความสามารถของผู้ช่วย AI ได้รับการสาธิตเพิ่มเติมโดย CTO Andrew Bosworth ซึ่งเน้นย้ำถึงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับคำบรรยายภาพ การแปล และการสรุป ฟังก์ชันการทำงานเหล่านี้สอดคล้องกับฟีเจอร์ AI ทั่วไปที่พบในผลิตภัณฑ์จาก Microsoft และ Google

ในระหว่างขั้นตอนการทดสอบเบื้องต้น การเข้าถึงจะถูกจำกัดไว้เฉพาะกลุ่มผู้เข้าร่วมที่เลือกในสหรัฐอเมริกา ตามที่ Bosworth ระบุไว้ คำแนะนำในการเลือกเข้าร่วมสามารถพบได้ที่นี่

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/12/12/23998780/ray-ban-smart-glasses-hey-meta-multimodal-ai-features

พระราชบัญญัติ AI ของสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงชั่วคราวแล้ว! คาดบังคับใช้ภายใน 2 ปี

สหภาพยุโรป (EU) ได้บรรลุข้อตกลงชั่วคราวเกี่ยวกับกฎระเบียบด้าน AI ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการจำกัดการใช้เทคโนโลยีบางอย่างและเรียกร้องความโปร่งใสจากผู้ให้บริการ พระราชบัญญัติ AI ซึ่งเสนอครั้งแรกในปี 2021 ยังไม่ได้รับการอนุมัติโดยสมบูรณ์ โดยมีการประนีประนอมในนาทีสุดท้ายซึ่งทำให้มาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดบางประการผ่อนปรนลง รองผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งนิวยอร์ก คาดว่าการบังคับใช้จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งอาจจะประมาณปี 2025

พระราชบัญญัติ AI แบ่งประเภทระบบ AI ตามระดับความเสี่ยงทางสังคม โดยใช้กฎที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับการใช้งานที่มีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม ความกังวลจากประเทศสมาชิก เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี นำไปสู่การประนีประนอม รวมถึงระบบสองชั้นสำหรับระบบที่มีความเสี่ยงสูงและข้อยกเว้นสำหรับการบังคับใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม Emmanuel Macron ได้ วิพากษ์วิจารณ์กฎระเบียบดังกล่าว โดยเสนอแนะว่าพวกเขาสร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ท้าทายซึ่งขัดขวางนวัตกรรม

กฎเกณฑ์ดังกล่าวไม่ได้แนะนำกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล แต่ได้มุ่งเน้นไปที่การสรุปความโปร่งใสของข้อมูลสำหรับบริษัทต่างๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ระบุว่าควรปฏิบัติต่อเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ในข้อมูลการฝึกโมเดลอย่างไร นักพัฒนาโอเพ่นซอร์ส นักวิจัย และบริษัทขนาดเล็กที่อยู่ไกลออกไปในห่วงโซ่จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าปรับ

แม้ว่าพระราชบัญญัติ AI อาจมีอิทธิพลต่อบุคคลสำคัญทางการเมืองอื่นๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งกฎระเบียบด้าน AI มีการพัฒนาช้า แต่ผลกระทบดังกล่าวยังคงต้องรอดูต่อไป สหรัฐอเมริกายังไม่ได้กำหนดกฎระเบียบด้าน AI ที่ครอบคลุม โดยมุ่งเน้นไปที่มาตรฐานความปลอดภัยและข้อตกลงโดยสมัครใจ

ผู้สังเกตการณ์เชื่อว่ากระบวนการพัฒนาที่โปร่งใสและเป็นข้อถกเถียงของสหภาพยุโรปอาจกำหนดความคาดหวังสำหรับอุตสาหกรรม AI กระตุ้นให้รัฐบาลประเมินกฎระเบียบที่มีอยู่ อิทธิพลที่เป็นไปได้ของพระราชบัญญัติ AI ที่มีต่อบริษัทต่างๆ เช่น OpenAI, Meta และ Google เน้นย้ำถึงความสำคัญของความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการพัฒนา AI แม้ว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของสหภาพยุโรปในเรื่องการกำกับดูแลด้าน AI โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการออกแบบ การพัฒนา และการใช้งาน AI ที่ปลอดภัย โปร่งใส และมีความรับผิดชอบ

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/12/14/24001919/eu-ai-act-foundation-models-regulation-data

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน 8 – 14 ธันวาคม 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand