ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 5 เดือน พฤษภาคม 2023

เป็นเรื่อง ทนายใช้ ChatGPT ช่วยว่าความ สุดท้ายกลายเป็นข้อมูลเท็จ

ประโยชน์ของ ChatGPT นั้นมากมายยิ่ง แต่จะเป็นประโยชน์ในด้านดีหรือไม่ดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ล้วน ๆ ล่าสุดพบทนายรายหนึ่ง ให้แชทบอท ChatGPT ช่วยเขียนว่าความทางกฎหมาย สุดท้ายพบเป็นข้อมูลเท็จเกือบทั้งหมด และล่าสุดกำลังโดนศาลสั่งลงโทษ

Steven Schwartz ทนายจากสำนักงาน Levidow, Levidow & Oberman แห่งนิวยอร์ก ได้รับว่าความให้กับ Roberto Mata ที่ตัดสินใจฟ้องร้องสายการบิน Avianca ในปี 2019 โดยอ้างว่าพนักงานของสายการบินดังกล่าวประมาทเลินเล่อ จนทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บจากรถเข็นบริการ
ดูเป็นงานไม่ยากสำหรับทนายที่มีใบอนุญาตกว่า 3 ทศวรรษรายนี้ ผนวกกับการมาของ ChatGPT จึงจัดแจงให้ช่วยเขียนว่าความ ขอลองเพิ่ง AI ช่วยงานดู จนได้คดีตัวอย่างที่เกิดในสนามบินมา 6 คดี เพื่อใช้สำหรับอ้างอิง

ทว่าคดีตัวอย่างที่เขียนโดย ChatGPT นั้น กลับไม่เคยเกิดขึ้นจริง สุดท้ายกลายเป็นข้อมูลปลอมเกือบทั้งหมด เป็นเหตุให้ทนายจากนิวยอร์กรายนี้ กำลังโดนศาลพิจารณาลงโทษในวันที่ 8 มิถุนายนที่กำลังมาถึง

Schwartz กล่าวว่า ตนเองไม่เคยใช้ ChatGPT มาก่อน จึงไม่ทราบเลยว่าเนื้อหาที่ได้นั้นเป็นข้อมูลปลอม เผยรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ที่พึ่งพาปัญญาประดิษฐ์มาเสริมการวิจัยทางกฎหมาย พร้อมยอมรับว่าตนเองไม่รอบคอบ ไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลให้ดีเอง

อ้างอิง : https://www.techhub.in.th/lawyers-use-chatgpt-to-help-court-citations/

นักวิทยาศาสตร์หัวใส ใช้ AI ช่วยค้นพบยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ฆ่าเชื้อดื้อยา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จากแคนาดาและสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการค้นพบยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ ที่สามารถใช้ได้ผลกับเชื้อดื้อยาชนิดร้ายแรงชื่อว่า Acinetobacter baumannii โดยอาศัยความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ช่วยจำแนกสูตรทางเคมี
คนทั่วไปอาจไม่คุ้นชื่อของแบคทีเรีย A. baumannii แต่มันเป็น 1 ใน 3 ซุปเปอร์บัก หรือ เชื้อดื้อยา ที่ถูกองค์การอนามัยโลกจัดให้เป็น ภัยคุกคามวิกฤติ (critical threat) โดยมันสามารถติดเข้าสู่บาดแผล ทำให้เกิดโรคปอดบวมได้ และบ่อยครั้งที่พบว่าเชื้อตัวนี้ ต้านทานยาปฏิชีวนะที่มีอยู่ตอนนี้เกือบทุกชนิด

ในการค้นหายาปฏิชีวนะตัวใหม่ ทีมนักวิจัยทำการฝึกฝน AI โดยป้อนข้อมูลยาที่มีโครงสร้างทางเคมีชัดเจนจำนวนหลายพันชนิดเข้าไป และทดลองใช้กับเชื้อ A. baumannii เพื่อดูว่าจะสามารถชะลอการเติบโต หรือฆ่ามันได้หรือไม่ เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้สมบัติทางเคมีของยาที่สามารถโจมตีแบคทีเรียเจ้าปัญหาตัวนี้ได้

ต่อมา AI ผสมสูตรทางเคมีของยาตัวใหม่ที่ไม่รู้ประสิทธิภาพแน่ชัดออกมา 6,680 รายการ จากนั้นใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง จำแนกออกมาจนเหลือ 240 รายการ ซึ่งนักวิจัยนำไปทดสอบในห้องทดลอง และพบยาปฏิชีวนะที่มีศักยภาพ 9 ตัว โดยหนึ่งในนั้นมีศักยภาพสูงจนน่าเหลือเชื่อ และได้ชื่อว่า abaucin

ผลการทดสอบในห้องทดลองแสดงให้เห็นว่า ยา abaucin สามารถรักษาแผลติดเชื้อในหนูได้ และสามารถฆ่าเชื้อ A. baumannii ในตัวอย่างที่เก็บมาจากคนไข้ได้ แต่ ดร.โจนาธาน สโตกส์ จากมหาวิทยาลัย แมกมาสเตอร์ ในแคนาดา กล่าวว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

ขั้นตอนต่อไปคือการทำให้ยาสมบูรณ์แบบในชั้นการทดสอบในห้องทดลอง จากนั้นจึงไปสู่การทดสอบทางคลินิกกับคนจริงๆ ซึ่ง ดร.สโตกส์คาดว่า ยาปฏิชีวนะฝีมือ AI ตัวแรกนี้ อาจต้องใช้เวลานานถึงปี 2573 กว่าที่แพทย์จะสามารถสั่งจ่ายยาให้ใช้งานกับคนไข้ได้

ทั้งนี้ โลกแทบไม่มียาปฏิชีวนะชนิดใหม่เกิดขึ้นมาเลยในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนทางกับเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แต่ละปี มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ ซุปเปอร์บัก ที่ต้านทานการรักษาจากยาปฏิชีวนะ จำนวนมากกว่า 1 ล้านคน

นักวิทยาศาสตร์ยังพบด้วยว่า ยาปฏิชีวนะตัวใหม่นี้ ไม่มีผลกับแบคทีเรียสายพันธุ์อื่น แต่มีผลกับ A. Baumannii เท่านั้น ต่างจากยาปฏิชีวนะหลายชนิด ที่มักฆ่าแบคทีเรียโดยไม่แบ่งแยก ซึ่งความแม่นยำนี้จะทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้ยากขึ้น และมีผลข้างเคียงน้อยลงด้วย

อ้างอิง : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2696987

กรมทรัพย์สินทางปัญญาไขข้อข้องใจ ใช้ AI ทำภาพมีลิขสิทธิ์ไหม?

กรมทรัพย์สินทางปัญญาชี้กรณีใช้ AI ทำภาพ มีกรณีศึกษาสำนักงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ ปฏิเสธจดแจ้งลิขสิทธิ์ภาพการ์ตูนชิ้นหนึ่ง ก่อนกำหนดแนวทางว่า งานที่สร้างสรรค์โดย AI ไม่สามารถจดแจ้งลิขสิทธิ์ได้ แต่ถ้าทำร่วมกับมนุษย์ต้องระบุให้ชัดเจนด้วย

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. เฟซบุ๊ก กรมทรัพย์สินทางปัญญา ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โพสต์บทความหัวข้อ “ภาพที่ AI ทำขึ้นมีลิขสิทธิ์ไหม?” ระบุว่า ปัจจุบันการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างเเพร่หลายในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ เขียนโปรแกรม เขียนบทความ การตั้งคำถาม ตลอดไปถึงการสร้างสรรค์ภาพ ตัวอย่างเช่นเเพลตฟอร์มที่ใช้ AI และอัลกอริทึมการเรียนรู้มารังสรรค์ผลงานภาพตามคำค้นหาของผู้ใช้งาน เเล้วผลงานที่เกิดจากการสร้างสรรค์โดย AI นั้นถือเป็นงานที่มีลิขสิทธิ์หรือไม่?

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานลิขสิทธิ์สหรัฐฯ (USCO) ได้ปฏิเสธการจดแจ้งลิขสิทธิ์รูปภาพการ์ตูนเรื่อง Zayra of the Dawn โดยให้เหตุผลว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่ผลงานการสร้างสรรค์ของมนุษย์ แต่เป็นผลจาก AI และหลังจากนั้น USCO ก็ได้เผยแพร่ Guidance on copyright registration involving media crafted by artificial intelligence หรือแนวทางการจดแจ้งงานลิขสิทธิ์ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของ AI ซึ่งกำหนดว่างานที่สร้างสรรค์โดย AI “ไม่สามารถจดแจ้งลิขสิทธิ์ได้” และหากงานลิขสิทธิ์ใดมีการสร้างสรรค์ร่วมกันทั้งโดยมนุษย์และ AI ก็จะต้องระบุให้ชัดเจนตอนยื่นขอจดแจ้งลิขสิทธิ์ด้วย

เคสนี้อาจจะคล้ายๆ กับกรณีภาพลิงเซลฟี ที่ชื่อว่า Naruto ที่ศาลได้ตัดสินไว้ว่า กฎหมายลิขสิทธิ์ไม่ได้ระบุให้สัตว์มีสิทธิในผลงานสร้างสรรค์ และกฎหมายลิขสิทธิ์มีผลเฉพาะสำหรับงานสร้างสรรค์ของมนุษย์เท่านั้น

อ้างอิง : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000049866

NVIDIA generative AI ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถคุยกับ NPC ได้

NVIDIA ได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่เรียกว่า Avatar Cloud Engine (ACE) ซึ่งจะช่วยให้เกมเมอร์สามารถพูดคุยกับตัวละครที่ไม่สามารถเล่นได้ (NPC) อย่างเป็นธรรมชาติและได้รับการตอบกลับที่เหมาะสม โดยทาง NVIDIA ได้เผยเทคโนโลยีในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับ generative AI ที่งาน Computex 2023 โดยแสดงการสาธิตนั้นใช้ชื่อว่า Kairos มาพร้อมตัวละครที่สามารถเล่นได้ซึ่งกำลังพูดคุยอยู่กับ NPC ชื่อ Jin ในร้านราเมน

การสาธิตแสดงให้เห็นว่าผู้เล่นกำลังสนทนากับจินประมาณว่า “เฮ้ จิน เป็นไงบ้าง” คน ๆ นั้นถาม “โชคไม่ดีนัก” จินตอบ แล้วผู้ทดสอบจึงถามอีกว่า “เกิดอะไรขึ้น” จินจึงโต้ตอบกลับมาว่า “ฉันกังวลเกี่ยวกับอาชญากรรมแถวนี้ ช่วงนี้มันแย่มาก ร้านราเมนของฉันโดนลูกหลง
NVIDIA ทำการสาธิตร่วมกับ Convai เพื่อโปรโมต ACE ซึ่งสามารถทำงานได้ทั้งในระบบคลาวด์และในเครื่อง (บนฮาร์ดแวร์ NVIDIA, natch) มันใช้ NVIDIA NeMo ในการสร้าง ปรับแต่ง และปรับใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่สามารถปรับแต่งได้ด้วยเนื้อเรื่องเบื้องหลังของตัวละคร ในขณะที่มีการป้องกันคำแปลกเผื่อกรณีมีการสนทนาที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังปรับใช้การรู้จำเสียงและเครื่องมือแปลงคำพูดเป็นข้อความที่เรียกว่า Riva ร่วมกับ Omniverse Audio2Face ของ NVIDIA “สำหรับการสร้างภาพเคลื่อนไหวที่แสดงสีหน้าของตัวละครในเกมได้ทันทีเพื่อให้ตรงกับเสียงพูด”

อ้างอิง : https://www.4gamers.co.th/news/detail/9392/nvidias-generative-ai-lets-gamers-talking-with-npc

Adobe นำความสามารถ Firefly หรือ generative AI เชื่อมต่อเข้ากับ Photoshop แล้ว

จากการที่ Adobe เปิดตัวปัญญาประดิษฐ์แบบ generative AI ในชื่อว่า Firefly นั้น ล่าสุด Adobe ได้นำความสามารถ Firefly เชื่อมต่อเข้ากับ Photoshop แล้ว ให้นักออกแบบ สามารถสร้างหรือลบ object ในงานออกแบบได้โดยใช้คำสั่ง prompt โดยฟีเจอร์นี้มีชื่อว่า Generative Fill

Geneative Fill จะทำงานภายในแต่ละเลเยอร์ในไฟล์รูปภาพ ยกตัวอย่างเช่น ถ้านักออกแบบต้องการต่อพื้น หรือ ขยายขอบของภาพ (outpainting) ก็สามารถใส่ข้อความเป็น prompt ถึงแนวภาพที่ต้องการได้ ถ้าให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ก็สามารถบอกตำแหน่งได้

หากใครเล่น generative AI แบบรูปภาพมาบ่อยๆ ฟีเจอร์ Generative Fill ของ Photoshop นี้อาจไม่ได้น่าตื่นตาตื่นใจมาก แต่ที่น่าสนใจคือ ฟีเจอร์นี้ ฝังมาไว้ให้ใน Photoshop เครื่องมือที่นักออกแบบใช้กันแพร่หลายมากที่สุดในตอนนี้

Generative Fill กำลังเปิดตัวในรุ่นเบต้า แต่ Adobe กล่าวว่าจะเห็นการเปิดตัวเต็มรูปแบบใน Photoshop ในปลายปีนี้
นอกจากฟังก์ชันแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างคือข้อมูลการฝึกอบรม Adobe อ้างว่าโมเดลได้รับการฝึกอบรม เป็นเนื้อหาที่บริษัทมีสิทธิ์ใช้เท่านั้น เช่น ภาพ Adobe Stock เท่ากับว่า ผลงานที่สร้างโดย Generative Fill จะเอาไปใช้เพื่อการค้าได้ ไม่ผิดลิขสิทธิ์ใคร

อ้างอิง : https://workpointtoday.com/adobe-brings-firefly-or-generative-ai-capabilities-to-photoshop/

Nvidia กลายเป็นบริษัทมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์จากการเติบโตของ AI

Nvidia กลายเป็นบริษัทมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว โดยมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นจากบริษัทเทคโนโลยีทั้งรายใหญ่และรายเล็กที่แข่งกันเพิ่มเครื่องมือสร้างปัญญาประดิษฐ์ให้กับผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ซึ่งชิปของ Nvidia ทำให้เป็นซัพพลายเออร์หลักสำหรับบริษัทที่พยายามสร้างบางสิ่งด้วย AI

มูลค่าของ Nvidia พุ่งทะลุมูลค่าล้านล้านดอลลาร์เมื่อเปิดการซื้อขายในวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีราคามากกว่า $405 ต่อหุ้น ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทที่มีมูลค่าเกินล้านล้านดอลลาร์นั้นครอบครองโดยบริษัทขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง เช่น Apple และ Microsoft

รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดจาก Nvidia มีกำไรมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในสามเดือน การขึ้นมาของกำไรครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ธุรกิจของ Nvidia เฟื่องฟูในช่วงต้นของการระบาดใหญ่ในช่วงที่ GPU ขาดแคลน ในขณะที่ผู้ซื้อต้องการเกม PC และการขุด cryptocurrency ก่อนที่ตลาดเหล่านั้นจะตกต่ำตลอดปี 2022

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คำปราศรัยในงาน Computex 2023 ของ Nvidia เต็มไปด้วยการประกาศเกี่ยวกับ AI รวมถึงการสาธิตเกมที่ใช้ Avatar Cloud Engine (ACE) สำหรับเกมเพื่อรองรับภาษาธรรมชาติ (natural language) ทั้งสำหรับการป้อนข้อมูลและการตอบสนอง และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ DGX GH200 ใหม่ที่สร้างขึ้นจาก Grace Hopper รุ่นล่าสุด ซึ่งเป็น Superchip ที่มีความสามารถโดยรวมของประสิทธิภาพ AI ที่เหนือกว่า

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/5/30/23742123/nvidia-stock-ai-gpu-1-trillion-market-cap-price-value

ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์” นักวิจัยและซีอีโอด้าน AI ชั้นนำเตือนถึงภัยคุกคามของมัน

กลุ่มนักวิจัย วิศวกร และซีอีโอด้าน AI ชั้นนำได้ออกคำเตือนใหม่เกี่ยวกับภัยคุกคามที่มีอยู่ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า AI เป็นต้นเหตุให้เกิดต่อมนุษยชาติ โดยได้สรุปออกมาเป็นประโยคประกอบด้วยข้อความ 22 คำที่ตัดทอนให้สั้นลงเพื่อให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากที่สุด มีใจความดังนี้: “การลดความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์จาก AI ควรมีความสำคัญระดับโลกควบคู่ไปกับความเสี่ยงระดับสังคมอื่นๆ เช่น โรคระบาดและสงครามนิวเคลียร์”

คำแถลงนี้เผยแพร่โดย Center for AI Safety ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในซานฟรานซิสโก ได้รับการลงนามร่วมกันโดยบุคคลสำคัญ ได้แก่ Demis Hassabis CEO ของ Google DeepMind และ Sam Altman CEO ของ OpenAI รวมถึง Geoffrey Hinton และ Yoshua Bengio สองใน นักวิจัยด้าน AI สามคนที่ได้รับรางวัล Turing Award ประจำปี 2018 (บางครั้งเรียกว่า “รางวัลโนเบลสาขาคอมพิวเตอร์”) จากผลงานของพวกเขาเกี่ยวกับ AI

แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการแทรกแซงที่มีชื่อเสียงล่าสุดในการถกเถียงที่ซับซ้อนและขัดแย้งกันเกี่ยวกับความปลอดภัยของ AI เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จดหมายเปิดผนึกที่ลงนามโดยบุคคลกลุ่มเดียวกันก่อนหน้านี้ เรียกร้องให้ “หยุดชั่วคราว” เป็นเวลาหกเดือนในการพัฒนา AI แต่อย่างไรก็ตามจดหมายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายระดับ ผู้เชี่ยวชาญบางคนคิดว่ามันพูดเกินจริงถึงความเสี่ยงที่เกิดจาก AI ในขณะที่คนอื่น ๆ เห็นด้วยกับความเสี่ยง แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการแก้ไขที่จดหมายแนะนำ

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ให้เห็นถึงการปรับปรุงอย่างรวดเร็วในระบบ เช่น แบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ เป็นหลักฐานของการเพิ่มพูนด้านความสมารถของ AI ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต พวกเขากล่าวว่าเมื่อระบบ AI มีความซับซ้อนถึงระดับหนึ่งแล้ว อาจกลายเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมการกระทำของพวกมัน อย่างไรก็ตามมีคนจำนวนมากชี้ให้เห็นถึงการที่ระบบ AI นั้นยังไม่สามารถจัดการกับงานที่ค่อนข้างธรรมดาได้ด้วยซ้ำ เช่น การขับรถ แม้จะมีความพยายามหลายปีและการลงทุนหลายพันล้านในด้านการวิจัยนี้ แต่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองก็ยังห่างไกลจากความเป็นจริง

ในขณะเดียวกัน ทั้งผู้สนับสนุนความเสี่ยงของ AI และผู้สงสัยต่างเห็นพ้องต้องกันว่าแม้ไม่มีการปรับปรุงความสามารถ ระบบ AI ก็ยังนำเสนอภัยคุกคามจำนวนมากในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่เรื่องความปลอดภัยของข้อมูล การใช้อัลกอริทึม “predictive policing” ที่ผิดพลาด รวมไปถึงการสร้างข้อมูลที่ผิดและบิดเบือนข้อมูล

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/5/30/23742005/ai-risk-warning-22-word-statement-google-deepmind-openai

รายงานระบุจีนเร่งพัฒนา AI เผยมีโมเดลภาษาขนาดใหญ่ 79 ตัวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

องค์กรต่างๆในจีนได้มีการเปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) จำนวน 79 โมเดลในประเทศในช่วงสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากพวกเขาเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการพัฒนาอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายงานโดยสถาบันวิจัยของรัฐ. การพัฒนา LLM ซึ่งได้รับการฝึกฝนโดยใช้เทคนิคการเรียนรู้เชิงลึกกับข้อมูลข้อความจำนวนมหาศาล ได้เข้าสู่ช่วง “เร่งรัด” ในปี 2020 ตามรายงานที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยที่ดำเนินการโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ

ในปี 2020 องค์กรของจีนออก LLM 2 ตัว เมื่อเทียบกับ 11 ตัวที่ได้เปิดตัวในสหรัฐอเมริกา แต่ในปี 2021 มี LLM ทั้งหมดถึง 30 ตัวที่ออกในแต่ละประเทศ องค์กรต่างๆ ของสหรัฐฯ ปล่อย LLM ทั้งหมด 37 ตัวในปีถัดมา ซึ่งในปีนั้นจีนได้เปิดตัวเป็นจำนวน 28 ตัว ตามตัวเลขที่รวบรวมในรายงาน จนถึงปีนี้ จีนเป็นผู้นำด้วย LLM จำนวน 19 ตัว เทียบกับสหรัฐฯ 18 ตัว.

“เมื่อพิจารณาจากการเผยแพร่โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่เผยแพร่ทั่วโลก จีนและสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำสัดส่วนที่มาก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของทั้งหมดทั่วโลก” และ “สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกเสมอในแง่ของจำนวนโมเดลภาษาขนาดใหญ่”

รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่ออุตสาหกรรม AI ของประเทศเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ เนื่องจากการควบคุมการส่งออกที่นำโดยสหรัฐฯ จำกัดองค์กรของจีนไม่ให้เข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในการฝึกอบรม LLM รวมถึงงานด้านคอมพิวเตอร์ขั้นสูงอื่นๆ

รายงานวิเคราะห์ LLM 79 แห่งที่พัฒนาขึ้นในจีน โดยสังเกตว่าในขณะที่เทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการพัฒนาไปแล้วใน 14 ภูมิภาค แต่โครงการพัฒนาร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมนั้นยัง “ไม่เพียงพอ”

อ้างอิง : https://www.reuters.com/technology/chinese-organisations-launched-79-ai-large-language-models-since-2020-report-2023-05-30/

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  26 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก