ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 1 เดือน มิถุนายน 2023

สุดเจ๋ง! มข.พัฒนา AI ‘เว้าจา’ แปลงข้อความเป็น ‘เสียงพูดอีสาน’ ที่แรกของไทย

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน อ.ดร.พงษ์ศธร จันทร์ยอย อาจารย์วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เจ้าของงานวิจัย “เว้าจา” เปิดเผยว่า ปัจจุบันการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI อยู่ในความสนใจของทั่วโลก หลังเกิดเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกมนุษย์มากมาย ทั้งการแปลงเสียงเป็นข้อความ แปลงข้อความเป็นภาพ หรือแปลงข้อความเป็นเสียง แต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการใช้งานและสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ และภาษาไทย

ขณะเดียวกันเด็กอีสานสมัยนี้ บางคนแทบจะพูดภาษาอีสานไม่ได้ จึงอยากจะใช้เทคโนโลยีที่วิจัยมาเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ภาษาถิ่นให้คงอยู่ จากแนวคิดนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นตัดสินใจศึกษา ค้นคว้า และวิจัยการประมวลผลภาษาธรรมชาติและเสียง (Natural Language and Speech Processing : NLSP) ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจภาษามนุษย์หรือภาษาธรรมชาติได้ จนเกิดเป็น AI แปลงข้อความเป็นเสียงภาษาอีสานขึ้นเพื่ออนุรักษ์รากทางวัฒนธรรมและภาษาถิ่นให้คงอยู่ด้วยเทคโนโลยี

“การวิจัยตั้งแต่ช่วงปริญญาโทและปริญญาเอก ซึ่งมี ผศ.ดร.พุธษดี ศิริแสงตระกูล เป็นที่ปรึกษาในขณะนั้น เริ่มต้นด้วยการเก็บฐานข้อมูลเสียงภาษาอีสานตอนกลางจากเจ้าของภาษา (Native Speaker) มากกว่า 5,000 ประโยค ความยาวรวมกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาเก็บข้อมูลหลายเดือน เพื่อนำมาเข้าสู่การแทนเสียงด้วยแบบจำลองทางสถิติ ให้สามารถสังเคราะห์เสียงได้เป็นธรรมชาติ เกิดเป็น AI แปลงเสียงเวอร์ชันแรก ก่อนจะพัฒนามาเป็น เวอร์ชัน 2 หรือ เว้าจา ในปัจจุบัน ที่ใช้เทคโนโลยี Deep Learning ให้ AI สามารถแปลงข้อความเป็นการออกเสียงภาษาอีสานได้สมบูรณ์ ถูกต้อง และสมจริงมากขึ้น รวมถึงเพิ่มเติมเสียงผู้หญิงเข้ามาให้ได้เลือกใช้งานกัน”

อ.ดร.พงษ์ศธร กล่าวว่า เว้าจา ใช้งานง่ายๆ เพียงพิมพ์คำอ่านภาษาอีสานลงไป AI จะสังเคราะห์เสียงภาษาอีสานทันที สามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ล่าสุด รถขอนแก่นซิตี้บัส ก็นำเว้าจาไปใช้เป็นเสียงประกาศแจ้งจุดจอดตลอดเส้นทาง กลายเป็น Signature ขนส่งสาธารณะของขอนแก่นให้นักท่องเที่ยว หรือผู้ใช้บริการประทับใจ
ขณะที่ ผศ.ดร.พุธษดี ศิริแสงตระกูล รองคณบดีฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เสริมว่า งานวิจัยการประมวลผลภาษาธรรมชาติและเสียงที่วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พัฒนาขึ้นนั้นไม่ได้มีเฉพาะเว้าจาที่เป็น AI สังเคราะห์เสียงเท่านั้น แต่ยังมีการแปลภาษาด้วยเครื่องมือการสืบค้นสารสนเทศ การสังเคราะห์เสียง การรู้จำเสียงพูด การรู้จำตัวอักษรโบราณ รวมไปถึงการนำไปประยุกต์ใช้ในศาสตร์อื่นๆ ได้

“การแปลงข้อความสังเคราะห์ออกมาเป็นเสียงนั้นเป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บกพร่องทางการมองเห็น จะสามารถรับรู้ข้อมูล ข่าวสารได้จากการฟัง ไม่เพียงเท่านั้น เว้าจา ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งการท่องเที่ยว งานประชาสัมพันธ์ หรือการแพทย์ เพื่อรักษารากวัฒนธรรมอีสานให้อยู่คู่คนรุ่นหลังต่อไป”

สำหรับผู้ที่สนใจนำ AI “เว้าจา” ไปใช้งาน สามารถติดต่อฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้

ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการพัฒนา “เว้าจา” ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทั้งการพิมพ์คำภาษาไทยให้สามารถออกเสียงเป็นภาษาอีสานได้ หรือแปลงเสียงเป็นข้อความ รวมถึงการแปลภาษาไทยเป็นอีสาน หรือแปลภาษาอีสานเป็นไทย และการสร้าง VOICE BOT คล้าย Siri แต่เป็นการสื่อสารภาษาไทยและอีสาน เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้อย่างเข้าใจ ก่อนจะพัฒนาไปสู่ภาษาพื้นถิ่นอื่นๆ ต่อไป

อ้างอิง : https://www.matichon.co.th/region/news_4017163

Dora AI เครื่องมือสร้างเว็บไซต์จากข้อความแค่บรรทัดเดียว

งานสร้างเว็บไซต์ที่เคยต้องใช้การเขียนโค้ดที่ซับซ้อน อาจจะกลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว หลังมีบริษัทเปิดตัว โดร่า เอไอ (Dora AI) ปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยสร้างหน้าเว็บไซต์ที่สวยงามได้จากข้อความคำสั่งเพียงแค่บรรทัดเดียว

แพลตฟอร์มสำหรับสร้างเว็บไซต์ด้วยข้อความคำสั่ง โดร่า เอไอ (Dora AI) เป็นแพลตฟอร์มเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างองค์ประกอบและหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการ ผ่านการป้อนข้อความคำสั่งที่อยากได้ เพื่อสร้างเป็นเทมเพลต หรือรูปแบบหน้าเว็บไซต์ให้กับผู้ใช้งานสามารถเข้าไปเลือกปรับแต่งได้ แม้ไม่มีประสบการณ์ในการเขียนโค้ดมาก่อนก็ตาม

ไม่ได้พัฒนามาเพื่อแย่งงานมนุษย์ แต่เพื่อช่วยงานมนุษย์
โดยทีมพัฒนาระบุว่า เป้าหมายในการพัฒนาเครื่องมือนี้ก็เพื่อนำเอาความฉลาดของ AI มาผสานเข้ากับเครื่องมือที่ใช้งานง่าย เพื่อพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ใช้งานในการออกแบบที่ไร้ขีดจำกัด และด้วยการที่เครื่องมือนี้ สามารถสร้างเนื้อหา 3 มิติและภาพเคลื่อนไหวตามที่ผู้สร้างกำหนด ก็จะช่วยลดชั่วโมงการใช้แรงงานคน ด้วยการทำให้กระบวนการแอนิเมชั่นเป็นไปโดยอัตโนมัติ และให้เราเข้าไปเพิ่มคำสั่งปรับแต่งได้อีกที

ดังนั้นเป้าหมายของการสร้างเครื่องมือตัวนี้ ตามคำบอกเล่าของทีมพัฒนา จึงไม่ใช่การแย่งงานมนุษย์ แต่เป็นอุปกรณ์ช่วยงานที่จะทำให้นักสร้างสรรค์มีหน้าเว็บไซต์ได้สวยตรงใจได้ง่ายขึ้น และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักออกแบบแต่ละคนด้วยความยืดหยุ่นในการออกแบบที่ไร้ขีดจำกัด ช่วยให้ก้าวข้ามอุปสรรคด้านเทคนิคและการเรียนรู้ เพื่อเปลี่ยนวิธีการสร้างเว็บไซต์ในฝันให้ทำได้เพียงแค่การกรอกข้อความไม่กี่คำเท่านั้น

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/147929/

ผลสำรวจพบพลัง ‘ChatGPT’ ทำผู้บริหาร 45% เร่งลงทุน AI และองค์กร 70% กำลังศึกษาเทคโนโลยี Generative AI

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสามารถของ AI Chatbot อย่าง ChatGPT ได้สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับทั้งพนักงานและองค์กร เพราะด้วยความฉลาดจนน่ากลัวที่อาจทำให้ในอนาคต AI อาจมาแทนที่มนุษย์ ขณะที่องค์กรต่าง ๆ เองก็อยากให้องค์กรตัวเองมีเทคโนโลยีล้ำ ๆ นี้มาใช้ในองค์กร
จากผลการสำรวจของ การ์ทเนอร์ อิงค์ ที่สอบถามความคิดเห็นผู้นำธุรกิจกว่า 2,500 ราย พบว่า โดย 45% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า ChatGPT กระตุ้นให้พวกเขาเพิ่มการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 70% ของผู้ตอบแบบสำรวจบอกว่าองค์กรของตนอยู่ในช่วงของ การสำรวจและศึกษาเทคโนโลยี Generative AI ขณะที่ 19% นั้นอยู่ในช่วงของการ ทดลองใช้หรือในช่วงของการผลิต

“ความร้อนแรงของเทคโนโลยี Generative AI ไม่มีทีท่าลดลง โดยองค์กรต่าง ๆ กำลังขบคิดอย่างหนักว่าจะจัดสรรงบประมาณให้กับโซลูชัน Generative AI แค่ไหน จะเลือกลงทุนกับผลิตภัณฑ์ใดถึงจะคุ้มค่า และจะเริ่มใช้งานจริงจังเมื่อใด รวมถึงเรียนรู้วิธีการลดความเสี่ยงที่มาพร้อมเทคโนโลยีนี้” ฟราสซิส คารามูซิส รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ กล่าว

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้บริหารที่ตอบแบบสอบถามระบุว่าอยากลงทุนด้าน Generative AI ก็คือ ประสบการณ์ของลูกค้า โดยมีสัดส่วนถึง 38% จากความเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยชี้ว่า แม้จะมีอุปสรรคทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer experience) คือหัวใจหลักที่ผู้บริหารให้ความสำคัญสำหรับการลงทุนใน Generative AI โดยมีเพียง 17% ระบุว่า การเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน (Cost Optimization) เป็นเป้าหมายหลักที่เลือกลงทุน Generative AI

ปัจจุบันมีหลายองค์กรที่เริ่มทดลองใช้ Generative AI และมีหลายแห่งนำไปใช้ในหลายกรณี เช่น ใช้ปรับปรุงเนื้อหาในสื่อหรือสร้างโค้ด ทั้งนี้ Generative AI ยังมีศักยภาพอีกมากที่สนับสนุนหรือรองรับการพัฒนาโซลูชันที่ช่วยเพิ่มความสามารถของมนุษย์หรือเครื่องจักร รวมถึงช่วยปรับการดำเนินธุรกิจและกระบวนการทางไอทีให้เป็นแบบอัตโนมัติ
“ธุรกิจรูปแบบขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ หรือ Autonomous Business คือก้าวถัดไปครั้งใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่สามารถลดผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความสามารถ และแม้แต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดย CEO และ CIO ที่ใช้ Generative AI ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงตลอดทั่วทั้งโมเดลผลิตภัณฑ์และโมเดลการดำเนินธุรกิจจะพบกับโอกาสการเติบโตของรายได้อย่างมหาศาล”
นอกจากนี้ ผู้บริหารที่ตอบแบบสำรวจจำนวน 68% เชื่อว่า Generative AI นั้นมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ซึ่งเมื่อเทียบกับเพียง 5% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เห็นว่ามีความเสี่ยงมากกว่ามีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารอาจเปลี่ยนมุมมองไปเมื่อลงทุนในระดับที่ลึกขึ้น

อ้างอิง : https://positioningmag.com/1433446

Elon Musk ชี้จีนเตรียมออกกฎควบคุม AI ในประเทศ

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2023 ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า มหาเศรษฐีระดับโลกอย่างอีลอน มัสก์ (Elon Musk) กล่าวว่า ประเทศจีนกำลังเตรียมออกกฎระเบียบควบคุมปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ภายในประเทศเร็ว ๆ นี้ โดยการคาดการณ์ของเจ้าพ่อเทคโนโลยีเกิดขึ้นหลังจากบินไปเยือนประเทศจีน และได้ร่วมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีนด้วย

“เป็นที่น่าสังเกตว่าในการเดินทางไปจีนครั้งล่าสุดของผม ผมไปพบผู้นำระดับสูงที่นั่น มีการพูดคุยที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความเสี่ยงของปัญญาประดิษฐ์ และความจำเป็นในการกำกับดูแลและออกกฎระเบียบด้วย” – อีลอน มัสก์กล่าว

โดยการเยือนจีนของอีลอน มัสก์ในครั้งนี้เป็นระยะเวลา 2 วัน เขาได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีน อาทิ รองนายกรัฐมนตรีตำแหน่งสูงสุด, รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีพาณิชย์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ประเทศจีนเคยมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการออกมาตรการควบคุมปัญญาประดิษฐ์ภายในประเทศมาแล้ว ซึ่งไซเบอร์สเปซ (Cyberspace) ที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์ของประเทศจีน ได้เปิดเผยร่างมาตรการในการจัดการปัญญาประดิษฐ์ โดยระบุว่าต้องการให้บริษัทต่าง ๆ ส่งการประเมินความปลอดภัยปัญญาประดิษฐ์ไปยังเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะเปิดตัวต่อสาธารณะ และต้องสอดคล้องกับค่าสังคมนิยมหลักของประเทศ

นอกจากนี้ ประเทศจีนยังสั่งควบคุมการใช้แชทจีพีที (ChatGPT) เนื่องจากเกรงว่าจะกลายเป็นเครื่องมือของสหรัฐฯ ในการเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับประเทศจีน ซึ่งการควบคุมในลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นเมื่อนานแล้วกับกูเกิล (Google), เฟสบุ๊ก (Facebook), ยูทูป (YouTube) และทวิตเตอร์ (Twitter) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังระดับโลก

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/148038/

มีรายงานว่า Instagram กำลังพัฒนา AI แชทบอท 30 บุคลิก

มีรายงานจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์มือถือคนหนึ่งชื่อ Alessandro Paluzzi ซึ่งเป็นนักแกะแอปและมักจะรู้ความเคลื่อนไหวของแอปต่างๆ โดยที่บริษัทผู้สร้างแอปนั้นยังไม่เปิดเผย

ซึ่ง Paluzzi โพสต์ภาพเผยว่าตอนนี้ Instagram กำลังพัฒนา AI แชทบอท ที่มี ถึง 30 บุคลิก สามารถตอบคำถาม ให้คำแนะนำ เขียนข้อความให้เราได้

ซึ่งการที่มีให้เลือก 30 บุคลิกนั้น เป็นเพราะอยากให้ผู้ใช้งานได้เลือกบุคลิกที่สอดคล้องกับตัวตนของตัวเองมากที่สุด จนถึงตอนนี้ Instagram ยังไม่ออกมายืนยันข่าวว่าจริงหรือไม่

ซึ่งถ้าเป็นข่าวจริงก็อาจไม่แปลกใจเพราะกระแส แชทบอท หรือ ChatGPT กำลังมาแรง มีหลายแพลตฟอร์มเริ่มพัฒนาแชทบ็อทของตัวเองโดยใช้เอนจิ้น ChatGPT ทาง Snapchat เองก็เปิดตัว My AI แชทบอทของตัวเองแล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา มาร์ก ซักเคอเบิร์ก เผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ AI ว่า าเป้าหมายระยะยาวของบริษัทคือการสร้าง AI ที่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้หลากหลายวิธี

Meta ยังใช้เครื่องมือ AI ในธุรกิจโฆษณา Advantage+ ช่วย ค้นหากลุ่มเป้าหมาย และวางโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta โดยอัตโนมัติ และกำลังพัฒนาวิธีการให้ผู้ลงโฆษณาสร้างและทดสอบโฆษณาโดยใช้ AI

อ้างอิง : https://workpointtoday.com/instagram-is-developing-an-ai-chatbot-with-30-personalities/

Rishi Sunak นายกฯสหราชอาณาจักรกล่าว จะเป็นผู้นำของโลกในการคุกคามของ AI

Rishi Sunak เตรียมพบประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ ที่ห้องทำงานรูปไข่ในการเยือนทำเนียบขาวครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยเขาจะประกาศว่าสหราชอาณาจักรจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดครั้งสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจาก AI และคาดว่าจะผลักดันให้ลอนดอนเป็นที่ตั้งของหน่วยงานกำกับดูแล AI ระดับโลกแห่งใหม่ โดยมีต้นแบบมาจากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ

“คุณคงยากที่จะหาประเทศอื่นในโลกตะวันตกนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาที่มีความเชี่ยวชาญและความสามารถด้าน AI มากกว่า” “ในอดีต สหราชอาณาจักรทำถูกต้องเมื่อเราพยายามสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับการทำให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีใหม่นั้นปลอดภัยสำหรับสังคม” “ผมตั้งใจที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับประธานาธิบดีไบเดนและผู้นำอีกหลายคนทั่วโลก” Rishi Sunak กล่าว

โดยการประกาศเกิดขึ้นหลังจากไม่กี่วันหลังจากที่ปรึกษาระดับสูงคนหนึ่งของ Sunak เตือนว่า AI สามารถฆ่ามนุษย์ได้ภายใน 2 ปี หากไม่ดำเนินการในตอนนี้ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหัวหน้าห้องปฏิบัติการ AI ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เตือนในแถลงการณ์ร่วมว่าเทคโนโลยีเช่น ChatGPT อาจเป็นอันตรายพอๆ กับสงครามนิวเคลียร์ โดยกล่าวว่า “การลดความเสี่ยงของการสูญพันธุ์จาก AI ควรเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก”

เขาจะประกาศว่าสหราชอาณาจักรจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด AI ในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นการรวมตัวของประเทศสำคัญ บริษัทเทคโนโลยี และนักวิจัย เพื่อตกลงวิธีการประเมินและติดตามความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดของเทคโนโลยี สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน AI โดยอยู่ในอันดับที่สามรองจากสหรัฐอเมริกาและจีน ภาค AI ของอังกฤษมีส่วนช่วยเศรษฐกิจไปแล้ว 3.7 พันล้านปอนด์ และมีพนักงาน 50,000 คนทั่วประเทศ แต่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีทำให้เกิดคำเตือนว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาเร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะควบคุมได้

มีข้อบ่งชี้ว่าจีนอาจได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอด AI โดยโฆษกอย่างเป็นทางการของ Sunak กล่าวว่างานนี้จัดขึ้นสำหรับ “ประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน” ซึ่งตระหนักถึงโอกาสที่สำคัญของ AI ไม่ว่าจะเป็นในแง่บวกและแง่ลบ แต่ก็ “จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีระมัดระวังที่เหมาะสม” การมุ่งเน้นไปที่ AI ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำหรับนายสุนัค ซึ่งกล่าวว่าเขาจะจัดลำดับความสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจต่อภัยคุกคามจากระบอบเผด็จการ เช่น รัสเซียและจีน ในการบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐฯ

อ้างอิง : https://www.telegraph.co.uk/politics/2023/06/07/rishi-sunak-britain-ai-threat-joe-biden-visit/

Zoom สามารถสรุปข้อมูลการประชุมด้วย AI ช่วยเก็บตกข้อมูลที่คุณพลาดไป

Zoom ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI เพื่อติดตามการประชุมพวกเขาพลาดการประชุม ฟีเจอร์นี้ทางบริษัทได้ประกาศเปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม และปัจจุบันทางบริษัทได้เปิดตัวรุ่นทดลองให้ผู้ใช้งานสามารถทดลองใช้งานได้แล้ว

ด้วย Zoom IQ ผู้ช่วยที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของแอปนั้น โฮสต์สามารถสร้างสรุปการประชุมและส่งไปยังผู้ใช้ผ่าน Zoom Team Chat หรืออีเมลได้เลย เป็นการยากที่จะบอกว่าสรุปการประชุมมีความแม่นยำ (หรือละเอียด) เพียงใด แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นวิธีที่เร็วกว่ามากในการสรุปสิ่งที่คุณพลาดไป แทนที่จะดูการประชุมที่บันทึกไว้ล่วงหน้าทั้งหมด นอกเหนือจากการสรุปการประชุมที่สร้างโดย AI แล้ว Zoom ยังเปิดตัวความสามารถในการเขียนข้อความใน Team Chat โดยใช้ AI คุณสมบัติทั้งหมดนี้สร้างขึ้นจากสิ่งที่ผู้ช่วย IQ ของ Zoom มีอยู่แล้ว เช่น ความสามารถในการสร้างไฮไลท์การประชุมและบทต่างๆ

และในอนาคตอันใกล้นี้ Zoom วางแผนที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อีกหลายตัวผ่านการเป็นพันธมิตรกับ OpenAI และ Anthropic ซึ่งรวมถึงความสามารถในการเขียนอีเมลด้วย AI โดยใช้บริบทจากการประชุม โทรศัพท์ และอีเมลก่อนหน้า ตลอดจนวิธีสรุปเธรดใน Zoom Team Chat “ด้วยการคลิกปุ่ม” นอกจากนี้ Zoom ยังหาทางให้คุณใช้ AI เพื่อรับข้อมูลสรุปการประชุมในแชทเมื่อคุณมาสาย สร้างแบบร่างกระดานไวท์บอร์ดพร้อมข้อความแจ้ง และจัดระเบียบแนวคิดเป็นหมวดหมู่โดยอัตโนมัติระหว่างเซสชันระดมความคิด

สำหรับตอนนี้ มีเพียงการสรุปการประชุมและฟีเจอร์การเขียนแชทของ Zoom IQ เท่านั้นที่มีให้ทดลองใช้ฟรี “ในระยะเวลาจำกัด” สำหรับสมาชิกของ Zoom One (Enterprise Plus, Enterprise, Business Plus, Business, Pro) และบันเดิลดั้งเดิมของ Zoom ( Enterprise Named Host, Enterprise Active Host, Zoom Meetings Enterprise, Zoom Meetings Business, Zoom Meetings Pro) ยังไม่ชัดเจนว่าฟีเจอร์เหล่านี้จะมีราคาเท่าใดหลังจากทดลองใช้ฟรี แต่ Lacretia Taylor โฆษกของ Zoom บอกกับ The Verge ว่าบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลราคา “ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/6/5/23749338/zoom-ai-summaries-missed-meetings

WordPress เปิดตัวเครื่องมือ AI ที่จะเขียนบล็อกโพสต์ให้คุณ

WordPress กำลังได้รับปลั๊กอิน AI ใหม่ที่สามารถสร้างและแก้ไขข้อความได้ โดยเครื่องมือนี้เรียกว่า Jetpack AI Assistant และใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ใช้ WordPress.com “ในระยะเวลาจำกัด” ในขณะที่ผู้ใช้ Jetpack รายอื่นจะได้รับคำขอฟรี 20 รายการและต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 10 ดอลลาร์ต่อเดือนหลังจากนั้น นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดของซอฟต์แวร์สร้างข้อความ AI ซึ่งพร้อมใช้งานบนหนึ่งในแพลตฟอร์มบล็อกและการจัดการเนื้อหาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ผู้ช่วยนี้เป็นผลงานของ Automattic บริษัทที่เป็นเจ้าของ WordPress.com และมีส่วนช่วยในการพัฒนาแพลตฟอร์ม WordPress แบบโอเพ่นซอร์ส Automattic อธิบายเครื่องมือนี้ว่าเป็น “หุ้นส่วนการเขียนเชิงสร้างสรรค์” ที่ช่วยให้ผู้ใช้ “สร้างเนื้อหาที่หลากหลายตามคำสั่งของคุณ ซึ่งช่วยลดเวลาและความพยายามในการสร้างเนื้อหาได้อย่างมาก”

การสาธิตของเครื่องมือ AI แสดงให้เห็นสำหรับการสรุปบล็อกโพสต์ ปรับโทนเสียงของข้อความ (ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างตัวเลือกต่างๆ เช่น “เป็นทางการ” “ยั่วยุ” และ “ตลกขบขัน”) และแม้แต่สร้างบล็อกโพสต์ทั้งหมดจากข้อความเดียวเช่น “เขียนรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ได้ของโตเกียว และให้ตารางที่มีอัตราแลกเปลี่ยนจาก JPY เป็น USD และ Euro” Automattic กล่าวว่าเครื่องมือนี้ยังสามารถแก้ไขการสะกดและไวยากรณ์และแปลระหว่าง 12 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส จีน และฮินดี

ที่จริงแล้ว ในการสาธิตของ Automattic คุณจะเห็นว่าอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่นนั้นมาจากเดือนสิงหาคม 2021 (วันที่นี้เป็นวันที่ล่าสุดสำหรับข้อมูลที่มีใน ChatGPT แม้ว่า Automattic จะไม่ได้บอกว่าซอฟต์แวร์ใดที่ใช้เพื่อขับเคลื่อนเครื่องมือของพวกเขา)

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/6/7/23752261/wordpress-automattic-generative-ai-writing-tool-plug-in-jetpack

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  2- 8 มิถุนายน 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก