ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 1 เดือน กรกฎาคม 2023

ล้ำสุด ๆ มหาวิทยาลัย Harvard เปิดตัวอาจารย์ AI สอนเขียนโค้ดในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิ

ยุคสมัยใหม่ของการศึกษาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ล่าสุดมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเปิดตัวบอทอาจารย์ AI สอนเขียนโค้ดในภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิ

โดยตัวบอทอาจารย์ AI ตัวนี้มีชื่อว่า ‘CS50’ เป็นเครื่องมือที่มีความคล้ายคลึงกับ ChatGPT ของ OpenAI มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทั้งอาจารย์ และนักศึกษาในเรื่องของการขอความช่วยเหลือการเขียนโค้ดรูปแบบต่าง ๆ
ทางมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้เล็งเห็นบอท CS50 ตัวนี้ว่า จะช่วยค้นหาข้อบกพร่องภายในโค้ด ให้คำแนะนำการเขียนโค้ด อธิบายความผิดพลาดของบรรทัดโค้ด และตอบคำถามจากผู้ใช้ที่ถามเข้ามา แต่ยังไงก็ตามในช่วงแรกของการทดสอบบอท CS50 ยังให้คำตอบที่ผิดพลาด และได้คะแนนทดสอบที่ต่ำกว่าเกณฑ์ในหลาย ๆ ครั้ง

เดวิด เจ. มาลัน (David J. Malan) ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยังออกมาให้ความเห็นว่า “บอท AI CS50 ถือว่าเป็นการวิวัฒนาการของการเรียนรู้ และเรายังคอยแจ้งนักศึกษาว่า นักศึกษาต้องมีวิจารณญาณในการรับข้อมูลที่ได้จากบอท พร้อมกับบอทตัวนี้จะช่วยเหลืองานของอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างมาก”

อ้างอิง : https://www.beartai.com/news/itnews/1274303

AI โชว์ล้ำ! พัฒนา-ชิมรสชาติเครื่องดื่มชูกำลังได้ด้วยตัวเอง ชนิดแรกของโลก

ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ปฏิวัติวงการเครื่องดื่มชูกำลังทั่วโลก เพราะไม่เพียงสร้างสรรค์ส่วนผสมที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังชิมรสชาติได้ด้วย โดยจะวางจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกเริ่มตั้งแต่ฤดูร้อนของปี 2566

เฮลล์ เอ็นเนอร์จี (HELL ENERGY) ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังจากฮังการี เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังชนิดแรกของโลกที่มาจากการสร้างสรรค์ของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) โดยระบบเอไอที่ล้ำสมัยนี้ออกแบบผลิตภัณฑ์ คิดส่วนผสม รวมถึงชิมและประเมินรสชาติต่าง ๆ ได้อย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ ยังสามารถทำนาย รักษามาตรฐานความปลอดภัย และใช้เครื่องมือทางการตลาดได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้รังสรรค์ขึ้นอย่างเชี่ยวชาญโดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์อันก้าวล้ำ

เอไอ (AI) นำข้อมูลและความรู้จำนวนมหาศาลที่อยู่บนโลกออนไลน์มาใช้ประโยชน์ ทั้งในกระบวนการดำเนินงานและความสามารถในการเชื่อมโยงจุดต่าง ๆ ด้วยความเร็วในระดับที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ นอกจากนี้ เอไอยังมีความรู้กว้างขวางในธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งครอบคลุมถึงส่วนผสม ยอดขาย งานวิจัยสุขภาพ รวมถึงคำแนะนำและเสียงตอบรับจากลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น เอไอยังรวบรวมข้อมูลและเทรนด์ล่าสุดมาวิเคราะห์ได้อย่างราบรื่น

เฮลล์ เอ็นเนอร์จี จึงมอบหน้าที่ให้ AI พัฒนาเครื่องดื่มชูกำลังแบบใหม่ได้ตามความต้องการ เทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็ได้รวบรวมข้อมูลจำนวนมหาศาล จากนั้นจึงคิดค้นสูตรที่น่าจะถือว่าเป็นส่วนผสมที่ดีที่สุด โดยเอไอไม่เพียงคำนึงถึงความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีต่อเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ยังให้ความสำคัญกับเป้าหมายในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่เหนือกว่าและสนุกกว่าคู่แข่ง

ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ได้รับการขนานนามว่าเป็นสิ่งที่มีความเฉลียวฉลาดมากที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน จึงสามารถคิดค้นส่วนผสมที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องดื่มชูกำลัง ด้วยการเติมวิตามิน กรดอะมิโน และสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ในขณะที่ยังปฏิบัติตามข้อบังคับและกฎหมายในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งรวมถึงคำแนะนำของหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป (EFSA) และมาตรฐานสารอาหารที่มนุษย์ควรได้รับในแต่ละวัน (RDA)

AI ได้สร้างสรรค์รสชาติที่แตกต่างกันขึ้นมา 3 แบบ ไว้เพื่อเลือกรสชาติที่ดีที่สุด จากนั้นจึงเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลด้วยการใช้เทคโนโลยีของบริษัทแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก หลังจากเอไอได้ชิมรสชาติทั้งหมดแล้วจึงวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติอย่างละเอียด โดยใช้ความสามารถในการทำนายพฤติกรรมลูกค้าเลือกรสชาติที่ชนะเลิศ ด้วยเหตุนี้ รสชาติที่สร้างความสดชื่นและเป็นเอกลักษณ์ของผลไม้และเบอร์รีหลากหลายชนิดจึงถือกำเนิดขึ้น

จากที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่น่าแปลกใจที่เอไอจะเป็นผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังรสชาติใหม่นี้ด้วยการประมวลเทรนด์ใหม่ ๆ รวมถึงอารมณ์และความรู้สึกทันสมัยของวัยหนุ่มสาว โดยเอไอยังใช้สไตล์ของตัวเองที่มีความเป็นดิจิทัลในการออกแบบ ในขณะที่ยังไม่ทิ้งสีดั้งเดิมของแบรนด์เฮลล์ เอ็นเนอร์จี

อ้างอิง : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/840724

ม.มหิดลพัฒนา ‘AI ตรวจจับคำพูดหยาบ’ เพื่อสังคมออนไลน์ที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กไทย

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนา ‘AI ตรวจจับคำพูดหยาบ’ เพื่อสังคมออนไลน์ที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กไทย

13 ก.ค. 2566 ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เด็กพูดจาหยาบคาย ส่วนหนึ่งเกิดจาก “พฤติกรรมเลียนแบบจากสื่อต่างๆ” ซึ่งสื่อสารด้วย “คำพูดหยาบคาย” กันจนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ
ต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ การปล่อยปละละเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กตั้งแต่ชั้นอนุบาล ที่มักจดจำและเลียนแบบจากบุคคลหรือสิ่งรอบตัวจนเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีปัญหาทางบุคลิกภาพ จากการชอบพูดคำหยาบคาย และก้าวร้าวรุนแรงจนเป็นนิสัย

รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภวงศ์ ทั่วรอบ และ อาจารย์ ดร.ธนพล นรเสฏฐ์ กลุ่มวิทยาการคอมพิวเตอร์ รวมถึงนักศึกษาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ “ปัญญาของแผ่นดิน” ได้ร่วมกันคิดค้นอัลกอริทึม “FALCoN” (Foul and Abusive Language detection using Co-training in social Networks) ด้วยทุนสนับสนุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.)

“FALCoN” ใช้เทคนิค Co-Training ในการฝึกสอนปัญญาประดิษฐ์ให้เรียนรู้ลักษณะของภาษาหยาบคาย จากทั้งคำพูดเองและข้อสังเกตจากบริบท เช่น Reaction และข้อความที่อยู่รอบๆ
เนื่องจากสื่อสังคมออนไลน์เป็น “ภาษาดิ้นได้” หรือภาษาที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องอาศัย “คนรุ่นใหม่” เพื่อทำความเข้าใจการใช้ภาษานี้ นักศึกษาของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มหาวิทยาลัยมหิดล จึงมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนา “FALCoN”
จากการติดฉลากข้อมูล และเขียนโปรแกรมเพื่อทำการทดลองซึ่งเป็นงานที่ต้องอาศัยการใช้วิจารณญาณ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ภายใต้การดูแลโดยอาจารย์ที่ปรึกษา และต้องใช้เวลา กว่าจะเสร็จสิ้น และสามารถนำไปใช้ได้จริงจะต้องมี “คลังข้อความ” ที่มากพอ และทดสอบการใช้กับกลุ่มตัวอย่างจนกว่าจะได้ผลจนเป็นที่แน่ใจ
ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเป็นโปรแกรมอัตโนมัติสมบูรณ์แบบเพื่อใช้คัดกรองภาษาที่ไม่เหมาะสมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งจะช่วยทำให้ประหยัดเวลา และงบประมาณ เทียบกับการเฝ้าระวังและคัดกรองด้วยมนุษย์

อย่างไรก็ดี “FALCoN” ยังคงต้องการทุนสนับสนุนเพื่อพัฒนาศักยภาพและต่อยอดเป็นโปรแกรมที่สมบูรณ์แบบก่อนการเปิดใช้ได้จริงในอนาคต

อ้างอิง : https://www.tcijthai.com/news/2023/7/current/13054

Valve จะไม่อนุมัติเกมลง Steam ถ้านักพัฒนาใช้ AI Artwork ที่ละเมิดลิขสิทธิ์

สื่อต่างๆ ได้รายงานเกี่ยวกับโพสต์ Reddit เมื่อเดือนมิถุนายนจากผู้ใช้นาม potterharry97 ว่า Steam จะไม่ทำการขายเกมที่มีเนื้อหาที่สร้างโดย AI อีกต่อไป ต่อมาในเดือนนี้ผู้พัฒนาเกมอื่นเขียนโพสต์ที่คล้ายคลึงกันเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามทาง Valve ได้ออกมาบอกว่าสิ่งที่มีการพูดถึงกันนั้นไม่ถูกต้อง

ตัวแทนฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Valve Kaci Boyle กล่าวว่าเป้าหมายของบริษัทคือ “ไม่กีดกันการใช้ AI บน Steam โดยเรากำลังหาวิธีรวมเข้ากับนโยบายที่มีอยู่แล้วแทน” เธอกล่าวต่อไปว่ากระบวนการตรวจสอบในปัจจุบันของบริษัทคำนึงถึงกฎหมายลิขสิทธิ์ในปัจจุบัน และ “ในขณะที่นักพัฒนาสามารถใช้เทคโนโลยี AI เหล่านี้ในการทำงานได้ โดยพวกเขาจะไม่สามารถละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีอยู่ได้”

Boyle เสริมว่า Steam จะคืนเงินให้กับผู้พัฒนาเกมที่ถูกปฏิเสธเนื่องจากปัญหาลิขสิทธิ์ AI ในขณะที่บริษัทได้ปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบด้านนี้

การเกิดขึ้นของ AI ได้เพิ่มมิติใหม่ที่ซับซ้อนให้กับการอภิปรายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนำไปสู่การฟ้องร้องในเรื่องต่างๆ เช่น การใช้โค้ดโอเพ่นซอร์สและการละเมิดงานศิลปะที่มีลิขสิทธิ์ ซึ่งทาง Valve ได้มุ่งประเด็นนี้ด้วยนโยบายเชิงรุกเกี่ยวกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจมากนัก

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/7/1/23781339/valve-steam-ai-artwork-rejecting-banning-pc-games

พรบ. AI ของสหภาพยุโรปอาจ “เป็นอันตรายต่ออธิปไตยทางเทคโนโลยี”

บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปบางแห่งได้ดำเนินการร่วมกันเพื่อวิพากษ์วิจารณ์กฎระเบียบด้านปัญญาประดิษฐ์ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติของสหภาพยุโรป โดยอ้างว่าพระราชบัญญัติปัญญาประดิษฐ์ไม่มีประสิทธิภาพและอาจส่งผลเสียต่อการแข่งขัน

ในจดหมายเปิดผนึกที่ส่งถึงรัฐสภายุโรป คณะกรรมาธิการ และรัฐสมาชิกในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่ Financial Times ได้เห็น ผู้บริหารกว่า 150 คนจากบริษัทต่างๆ เช่น Renault, Heineken, Airbus และ Siemens ประณามกฎหมาย AI เนื่องจากอาจ “ส่งผลเสียต่อยุโรปในด้านความสามารถในการแข่งขันและอธิปไตยทางเทคโนโลยี”

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน รัฐสภายุโรปได้ไฟเขียวร่างพระราชบัญญัติ AI หลังจากพัฒนากฎมาเป็นเวลาสองปี และขยายให้ครอบคลุมความก้าวหน้าล่าสุดของ AI เช่น โมเดล AI ภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และโมเดลพื้นฐาน เช่น GPT-4 ของ OpenAI ยังเหลืออีกหลายขั้นตอนก่อนที่กฎหมายใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยการเจรจาระหว่างสถาบันที่เหลือคาดว่าจะสิ้นสุดในปลายปีนี้

ผู้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกอ้างว่าพระราชบัญญัติ AI ในสถานะปัจจุบันอาจระงับโอกาสที่เทคโนโลยี AI มอบให้กับยุโรปในการ “เข้าร่วมเทคโนโลยีขั้นสูงอีกครั้ง” พวกเขาโต้แย้งว่ากฎที่ได้รับอนุมัตินั้นสุดโต่งเกินไป และมีความเสี่ยงที่จะบ่อนทำลายความทะเยอทะยานทางเทคโนโลยีของกลุ่มแทนที่จะจัดหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับนวัตกรรม AI

จดหมายเปิดผนึกอ้างว่าบริษัทที่พัฒนาระบบ AI พื้นฐานเหล่านี้มีต้นทุนการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ไม่สม ซึ่งอาจกระตุ้นให้ผู้ให้บริการ AI ถอนตัวออกจากตลาดยุโรปโดยสิ้นเชิง “ยุโรปไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ได้” จดหมายระบุ พร้อมสนับสนุนให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปยกเลิกภาระหน้าที่ในการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับแบบจำลอง generative AI และมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สามารถรองรับ “หลักการกว้าง ๆ ในแนวทางที่อิงตามความเสี่ยง”

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/6/30/23779611/eu-ai-act-open-letter-artificial-intelligence-regulation-renault-siemens

อย่างเนียน ! AI ปั่นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ ChatGPT คิดสคริปต์

ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีปัญหาการระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเองก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน นักคิด 2 ราย ชื่อโรเจอร์ แอนเดอร์สัน (Roger Anderson) และสตีฟ เบิร์กสัน (Steve Berkson) ได้คิดค้นซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า “จอลลี่ โรเจอร์ (Jolly Roger)” ซึ่งเป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) อย่างแชตจีพีที 4 (ChatGPT 4) ของบริษัท โอเพ่นเอไอ (OpenAI) ร่วมกับเอไอสร้างเสียงจากข้อความที่ชื่อเพลย์เอชที (PlayHT) ที่สามารถสร้างเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อนำมาตอบโต้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนักงานขายทางโทรศัพท์ ซึ่งเปิดให้บริการกับบุคคลทั่วไปแล้ว
ผสานการทำงานของแชตจีพีที (ChatGPT) เข้ากับเพลย์เอชที (PlayHT)
ในส่วนของการทำงาน เอไอสร้างเสียงที่ชื่อว่า เพลย์เอชที จะทำการลอกเลียนเสียงจากบุคคลในชีวิตจริงด้วยการอ่านสคริปต์ที่สร้างโดยแชตจีพีที 4 เพื่อตอบโต้กับปลายสายได้อย่างแนบเนียน ซึ่งแต่ละเสียงจะมีบุคลิกที่แตกต่างกัน เช่น ซอลตี้ แซลลี่ (Salty Sally) คุณแม่ผู้ทุกข์ระทม, วิสกี้ แจ็ค (Whiskey Jack) ผู้เสียสมาธิได้ง่าย และซิด เบิร์กสัน (Sid Berkson) เกษตรกรเลี้ยงโคนม

โดยเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าจะถูกเชื่อมเข้ากับระบบมือถือบนคลาวด์ (Cloud Phone System) เมื่อมีการโทรเข้าจากปลายสายที่เป็นสแปม มันจะถูกถ่ายโอนไป เพื่อให้คุยกับซอฟต์แวร์ดังกล่าวแทนเจ้าของตัวจริง

บริการนี้มีค่าใช้จ่าย 24.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 890 บาทต่อปี ซึ่งจะมีแอปพลิเคชันให้ลูกค้าสามารถเข้าไปฟังเสียงที่บันทึกการสนทนาระหว่างซอฟต์แวร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือพนักงานขายทางโทรศัพท์ได้ รวมถึงผู้ใช้งานสามารถออกแบบตัวละครของตนเองผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย

โรเจอร์ แอนเดอร์สันบอกกับสื่อออนไลน์อย่างอินไซเดอร์ (Insider) ว่าซอฟต์แวร์ตัวนี้สามารถหลอกล่อปลายสายได้นานถึง 30 นาที

บริการรับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2016
ก่อนหน้านี้ในปี 2016 โรเจอร์ แอนเดอร์สันและสตีฟ เบิร์กสันได้ร่วมกันเปิดตัวบริการรับสายแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนักงานขายทางโทรศัพท์ ซึ่งใช้วิธีการอัดเสียงของทั้งคู่ตามสคริปต์ที่คิดกันขึ้นเอง เพื่อใช้สำหรับโต้ตอบกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนักงานขายทางโทรศัพท์

โดยพวกเขาก่อตั้งบริการนี้ขึ้น เนื่องจากในปี 2016 มีการโทรเข้าแบบสแปมในประเทศสหรัฐอเมริกาสูงถึง 2,280 ล้านครั้ง และสูงที่สุด 5,660 ล้านครั้ง ในเดือนตุลาคมปี 2019 ซึ่งพวกเขาทั้งคู่มีงานประจำเกี่ยวกับโทรมานาคมอยู่แล้ว และใช้เวลาว่างในการทำธุรกิจนี้

อ้างอิง : https://news.trueid.net/detail/LEZQRzOxWVoK

คำค้นหา ‘งาน AI’ ในปี 2023 พุ่งแซง ‘งาน Crypto’ ถึง 4 เท่า นับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัวในปี 2022

งานวิจัยใหม่จาก CoinGecko พบว่า ปัญญาประดิษฐ์หรือที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า AI ได้กลายเป็นสายงานที่มีคนสนใจค้นหาข้อมูลกันเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและตอนนี้แซงหน้า Cryptocurrency ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น ในช่วงระหว่างปี 2020 ถึงปี 2022 คำค้นหาคำว่า “งาน AI” และ “งาน crypto” ยังคงมีความสนใจอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากคะแนนการค้นหาไม่ได้ต่างชั้นกันมากนัก อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดตัว ChatGPT ในเดือนพฤศจิกายน 2022 การค้นหา “งาน AI” ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลวิจัยของ CoinGecko พบว่า การค้นหาคำว่า “งาน AI” ในปี 2023 พุ่งสูงสุดเกือบ 5 เท่าเมื่อเทียบกับจำนวนการค้นหา “งาน crypto” ที่จุดสูงสุดตลอดกาล และในวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา “งาน AI” ก็ยังมีการค้นหามากกว่า งาน Crypto ถึง 4 เท่า รายงานระบุว่า ก่อนที่ BTC จะทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับราคา 69,000 ดอลลาร์

อ้างอิง : https://th.investing.com/news/cryptocurrency-news/article-125308

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  30 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก