ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 5 เดือน สิงหาคม 2023

Call of Duty จะใช้ AI กลั่นกรองแชทแก้ปัญหา Toxic

เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งอย่าง Call of Duty ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงในเรื่องความเป็นพิษ (toxic) ของการแชทด้วยเสียง ผลการสำรวจได้กล่าวถึงฐานแฟนคลับของแฟรนไชส์นี้ในแง่ลบมากที่สุดในบรรดาเกมทั้งหมด ความบาดหมางระหว่างผู้เล่นสองคนครั้งหนึ่งส่งผลให้มีการเรียกทีมหน่วย SWAT ให้เข้ามาเกี่ยวข้องเลยทีเดียว โดยทาง Activision พยายามปราบปรามพฤติกรรมนี้มาหลายปีมาแล้ว และล่าสุดส่วนหนึ่งของวิธีแก้ปัญหานี้อาจเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

Activision ได้ร่วมมือกับบริษัทชื่อ Modulate เพื่อนำ “in-game voice chat moderation” มาสู่เกมของพวกเขา ระบบการกลั่นกรองแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ที่เรียกว่า “ToxMod” จะทำงานเพื่อระบุพฤติกรรม เช่น คำพูดแสดงความเกลียดชัง การเลือกปฏิบัติ และการคุกคาม ทั้งหมดแบบเรียลไทม์

การเปิดตัวเบต้าครั้งแรกของ ToxMod ในอเมริกาเหนือเริ่มต้นแล้ววันนี้ มีการใช้งานภายใน Call of Duty: Modern Warfare II และ Call of Duty: Warzone “การวางจำหน่ายทั่วโลกเต็มรูปแบบ” (ไม่รวมเอเชีย) จะตามมาในวันที่ 10 พฤศจิกายนด้วยการเปิดตัว Call of Duty: Modern Warfare III ซึ่งเป็นเกมใหม่ของปีนี้ในแฟรนไชส์ Call of Duty

เป็นที่น่าสังเกตว่าเครื่องมือดังกล่าว (อย่างน้อยในตอนนี้) จะไม่ดำเนินการใดๆ กับผู้เล่นตามข้อมูลส่วนตัวของผู้เล่น แต่จะส่งรายงานไปยังผู้ดูแลของ Activision เท่านั้น การมีส่วนร่วมของมนุษย์มีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นการป้องกันที่สำคัญ เนื่องจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าระบบการรู้จำคำพูดสามารถแสดงอคติในลักษณะที่ตอบสนองต่อผู้ใช้ที่มีอัตลักษณ์และสำเนียงทางเชื้อชาติที่แตกต่างกัน

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/8/30/23852652/call-of-duty-activision-modulate-toxmod-artificial-intelligence-voice-moderation

OpenAI เปิดตัว ChatGPT ระดับองค์กร เพิ่มความเร็ว แก้ไขปัญหาความปลอดภัย

ในที่สุด OpenAI ก็ได้เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันที่สัญญาว่าจะปกป้องข้อมูลทางธุรกิจ เนื่องจากบริษัทจำนวนมากที่พิจารณาใช้แพลตฟอร์มมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย โดยทาง OpenAI กล่าวว่า ChatGPT Enterprise นำเสนอความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้น การเข้าถึง GPT-4 ความเร็วสูงไม่จำกัด การวิเคราะห์ข้อมูลที่ดียิ่งขึ้น เพื่อให้บริษัทต่างๆ เข้าใจข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก และความสามารถในการถามคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้นกับ ChatGPT

OpenAI บอกว่านี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นองค์กรตัวแรกสำหรับ ChatGPT และแยกจาก ChatGPT และ ChatGPT Plus ซึ่งเป็นแผนการสมัครสมาชิกเพื่อการเข้าถึง ChatGPT ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น บริษัทที่ใช้ ChatGPT อยู่แล้วสามารถเลือกที่จะใช้ตัวเลือกปัจจุบันในการเข้าถึง ChatGPT ได้ แต่สามารถเปลี่ยนไปใช้ ChatGPT Enterprise ได้เช่นกัน หากต้องการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ

องค์กรต่างๆ ได้สร้างเครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์โดยใช้ OpenAI และ GPT-4 แต่หลายๆ องค์กรเลือกที่จะเชื่อมต่อกับ GPT-4 ผ่าน API หรือบริการคลาวด์ บริษัทบางแห่งเริ่มสร้างระบบประเภทแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่ของตนเองเพื่อปกป้องข้อมูลของตนจากชุดข้อมูลการฝึกอบรม GPT ที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่การดำเนินการนี้อาจยุ่งยากสำหรับบริษัทขนาดเล็ก

บริษัทต่างๆ ที่มีเป้าหมายในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และได้ใช้งานโมเดลแบบ LLM เช่น GPT-4 ได้มีจำนวนลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทในภาคส่วนที่มีการควบคุมมากขึ้นต้องการใช้เครื่องมือ AI ที่สร้างใหม่ในขณะที่ปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ด้วยการเปิดตัว ChatGPT ระดับองค์กร ย่อมต้องมีการแข่งขันมากขึ้นสำหรับบริษัทเหล่านี้หลายแห่ง

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/8/28/23849453/openai-chatgpt-enterprise-grade-version

Hugging Face แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส AI ระดมทุน series D กว่า 8,000 ล้านบาท

“Hugging Face” repository โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์ส (open-source) เพิ่งได้รับการลงทุนมหาศาลจาก Google, Amazon, Nvidia และ Salesforce ตามความต้องการในการเข้าถึงโมเดล AI ที่เพิ่มมากขึ้น

Hugging Face ซึ่งทำหน้าที่เหมือน GitHub สำหรับ machine learning และโมเดล AI และชุดข้อมูลอื่น ๆ ระดมทุนได้ 235 ล้านดอลลาร์ในการระดมทุน Series D ตามรายงานของ CNBC การจัดหาเงินทุนครั้งล่าสุดนี้ทำให้การประเมินมูลค่าของ Hugging Face อยู่ที่ 4.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในธุรกิจจำนวนมากที่ได้รับประโยชน์จากความสนใจของนักลงทุนใน generative AI โดยนักลงทุนในรอบนี้ ได้แก่ Google, Amazon, AMD, Intel, IBM, Nvidia และ Salesforce ซึ่งทั้งหมดได้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในโมเดลพื้นฐาน AI หรือโปรเซสเซอร์ต่างๆ ที่ใช้ประมวลผลโมเดลเหล่านี้

Hugging Face โฮสต์โมเดล AI เจนเนอเรชั่นยอดนิยมหลายโมเดล เช่น Stable AI’s Stable Diffusion และ Meta’s Llama 2 นอกจากนั้นทาง AWS และ Hugging ได้ร่วมมือกันเพื่อทำให้ AWS Cloud Hugging Face สำหรับให้บริการโมเดลเหล่านั้น

โอเพ่นซอร์สเป็นคำที่มักเข้าใจผิดและใช้ในลักษณะที่สร้างความสับสน อย่างไรก็ตาม generative AI มีชุมชนโอเพ่นซอร์สที่กว้างขวาง และบริษัท AI ขนาดใหญ่หลายแห่งเลือกที่จะเผยแพร่โมเดลของตนที่มีลักษณะเปิดกว้างโดยอนุญาตให้นักพัฒนาทดลองได้ แต่ในขณะเดียวกันก็กำหนดให้ผู้ใช้ต้องปฏิบัติตามใบอนุญาตผู้ใช้ที่จำกัด

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/8/24/23844444/google-amazon-nvidia-hugging-face-generative-ai-investment

Drone AI บินเองไร้มนุษย์ควบคุม ฉลาดจนแข่งกับคนได้ แถมชนะแชมป์โลกได้

Drone AI เป็นอีกขั้นของเทคโนโลยีโดรนที่มีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยให้การบินโดรนง่ายขึ้น แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ Drone AI ที่ไม่จำเป็นต้องใช้มนุษย์ควบคุม กลับแข่งขันเอาชนะแชมป์โลกได้โดยไม่ต้องมีคนควบคุม

Drone AI โดรนอัจฉริยะที่บินได้เอง ไร้มนุษย์ควบคุมได้เป็นกระแสทั่วโลกอีกครั้ง เนื่องจากล่าสุดทีมนักวิจัยจาก University of Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เผยแพร่ผลงาน นำโดรนมาฝึกเรียนรู้ AI ทำให้สามารถบินในสนามแข่งบินโดรนและเอาชนะโดรนที่มีผู้ควบคุมระดับแชมป์โลกได้ โดยผลการแข่งขันใน 25 รอบ โดรนสามารถเอาชนะมนุษย์ได้ 15 รอบ

หัวหน้าทีมวิจัยโครงการนี้บอกว่ากระบวนการฝึกโดรนนั้น ใช้การรู้จำลักษณะของรั้วหรือสิ่งกีดขวางที่มีในสนามแข่งจากเซตรูปภาพ และเรียนรู้การบินในทิศทางและตำแหน่งต่าง ๆ แบบ Reinforcement ซึ่งทั้งหมดทำบนสนามแข่งแบบเสมือน จนกระทั่งโค้ดถูกเรียนรู้แก้ไขได้แนวทางการเคลื่อนที่ดีและเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตามงานวิจัยนี้ต้องการนำเสนอ AI ที่สามารถแข่งขันกับมนุษย์ได้ในสภาพแวดล้อมที่กว้างกว่าหมากกระดาน แต่ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องแข่งขันในสถานที่ปิด มีแสงไฟที่เหมาะสมกับที่เทรนมา รวมทั้งโดรนยังไม่ได้ฝึกแก้ปัญหาอุปสรรคอื่น เช่น ถูกโดรนอีกฝ่ายบินมาชน มีลมพัดแรงจนเสียทิศทาง สิ่งกีดขวางมีสภาพไม่ชัดเจน เป็นต้น

อ้างอิง : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/842736

เปิดตัว “DreameBot L20 Ultra” หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน AI ไบโอนิคที่ทรงพลัง

Dreame ชูเทคโนโลยีเอไอใน DreameBot L20 Ultra หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน AI ไบโอนิคที่ทรงพลังที่สุด พลังดูด 7000pa สูงสุดในตลาดที่มาพร้อมระบบแขนกลเครื่องแรกของโลก ครั้งแรกของขนแปรงทำความสะอาดขนาด 2 มม. พร้อมพลังการทำความสะอาดที่แข็งแกร่ง

DreameBot L20 Ultra มาพร้อมกับฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย ด้วยระบบ Intelligent Optical Dirt System หุ่นยนต์จะตรวจจับความสกปรกของผ้าถูพื้นได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นจะพิจารณาว่าจำเป็นต้องทำความสะอาดหรือไม่ และต้องถูบริเวณนั้นซ้ำหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นสะอาดที่สุดเสมอ นอกจากนี้ ระบบ Night Vision Light ที่จะส่องสว่างขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มืดเพื่อช่วยให้หุ่นยนต์ตรวจจับวัตถุได้อย่างแม่นยำในที่มืด อีกทั้งยังมีการรวมฟีเจอร์การทำความสะอาดซ้ำและการถูอัจฉริยะส่งผลให้ทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น

DreameBot L20 Ultra ยังมาพร้อมกลยุทธ์การทำความสะอาดพรมแบบอัจฉริยะ โดยหลังจากตั้งค่าการใช้งานแล้ว หากที่บ้านของคุณมีพรมขนยาว Dreame L20 Ultra จะกลับไปที่แท่น Base station เพื่อแยกชิ้นส่วนไม้ถูพื้นโดยอัตโนมัติหลังจากทำความสะอาดพื้นที่อื่นๆ เสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงจะทำความสะอาดพรมแยกกัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พรมเปื้อนเปียก สำหรับพรมขนสั้น ไม้ถูจะยกขึ้น 10.5 มม. โดยอัตโนมัติ และจะไม่สัมผัสกับพรมทำให้สามารถช่วยลดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีระบบให้เครื่องกลับแท่นชาร์จเอง
และยังมีคุณสมบัติอัจฉริยะมากมาย เช่น กล้อง AI Action ตรวจวัดระยะทางด้วยเลเซอร์ สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางได้มากกว่า 55 ประเภท และหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางด้วยระยะห่างเพียงมิลลิเมตรเพื่อการทำความสะอาดที่แม่นยำที่สุด ระบบ Night Vision Light ที่จะส่องสว่างขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มืดเพื่อช่วยให้หุ่นยนต์ตรวจจับวัตถุได้อย่างแม่นยำในที่มืด DreameBot L20 Ultra รองรับการควบคุมด้วยเสียงและการตรวจสอบระยะไกลผ่านวิดีโอ โดยสามารถโต้ตอบกับสมาชิกในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงจากนอกบ้านได้อย่างง่ายดาย ทำให้การทำความสะอาดง่ายขึ้นและสนุกยิ่งขึ้น

อ้างอิง : https://www.sanook.com/hitech/1587059/

ประธานไมโครซอฟท์ชี้ AI เสี่ยงถูกใช้เป็นอาวุธ มนุษย์ต้องเข้าควบคุม

นายแบรด สมิธ ประธานและรองประธานของบริษัทไมโครซอฟท์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถถูกใช้เป็นอาวุธได้ และจำเป็นต้องถูกควบคุมดูแลโดยมนุษย์

นายสมิธกล่าวเมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ว่า “”ผมคิดว่าเทคโนโลยีทุกอย่างที่คิดค้นขึ้นมานั้น แม้จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่พวกเรา แต่ก็สามารถถูกใช้เป็นอาวุธได้เช่นกัน ดังนั้นเราต้องแน่ใจว่า AI จะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐบาล, ทหาร หรือองค์กรประเภทใดก็ตามที่กำลังคิดจะใช้ AI ในปฏิบัติการอัตโนมัติ เช่น การปฏิบัติการในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่าง ๆ เราจำเป็นต้องรับประกันว่า เราต้องให้มนุษย์เป็นฝ่ายควบคุม AI เพราะเราจะสามารถชะลอหรือปิดระบบการปฏิบัติการได้””

บรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกได้ออกมาเตือนภัยคุกคามจาก AI หลังจากที่แชตจีพีที ซึ่งเป็นแชตบอตที่มีระบบปฏิบัติการประเภทปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง (Generative AI) กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เนื่องจากสามารถตอบโต้ได้เหมือนมนุษย์จริง ๆ โดย Generative AI นั้น เป็น AI ประเภทที่สามารถสร้างเนื้อหาต่าง ๆ เช่น ข้อความ, รูปภาพ, โค้ด และอื่น ๆ อีกมากมาย

นายแซม อัลต์แมน ซีอีโอของบริษัทโอเพนเอไอเจ้าของ ChatGPT รวมถึงผู้บริหารจากดีปมายด์ (DeepMind) ซึ่งเป็นบริษัท AI ของกูเกิล และไมโครซอฟท์ออกมาเตือนเมื่อเดือนพ.ค.ว่า AI มีความเสี่ยงทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ได้ในระดับความร้ายแรงเทียบเท่าสงครามนิวเคลียร์ โดยพวกเขาได้เน้นย้ำว่าจำเป็นต้องลดความเสี่ยงเหล่านั้น

นายสมิธกล่าวกับซีเอ็นบีซี นอกรอบการประชุมธุรกิจสุดยอด B20 (Business 20 Summit) ว่า สาเหตุข้างต้นเป็นเหตุผลที่พวกเขาสนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ ทำสิ่งที่ถูกต้อง และควรมีการออกกฎหมายและข้อบังคับใหม่ ๆ เพื่อรับประกันความปลอดภัยด้วย

อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/world/1085887

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  25 – 31 สิงหาคม 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก