ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 4 เดือน พฤศจิกายน 2023

Amazon เปิดโปรเจ็กต์ ‘AI Ready’ ฝึกอบรมทักษะ AI 2 ล้านคน ในปี 68

Amazon ได้ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ ‘AI Ready’ เพื่อมอบความรู้ผ่านหลักสูตรด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence: AI) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และมีเป้าหมายที่จะฝึกอบรมบุคลากร 2 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2568 ด้วยการเปิดตัวหลักสูตรและคอร์สอบรมใหม่ทางด้าน AI พร้อมกับการขยายขอบเขตโปรแกรมอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้

เบื้องต้น AWS ได้ประกาศเปิดตัวคอร์สอบรม 8 หลักสูตรใหม่ด้วยกัน เพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางด้าน AI และ Generative AI โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ นอกเหนือจากนี้ยังมีโครงการมอบทุนการศึกษาจากอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส “AWS Generative AI Scholarship” ร่วมกับแพลตฟอร์มการเรียนการสอนออนไลน์ Udacity รวมไปถึงการร่วมมือกับ Code.org ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับ Generative AI โดยเฉพาะ

นายสวามิ ศิวาสุบราห์มาเนียน รองประธานฝ่ายข้อมูลและ AI ของ AWS กล่าวว่า “ปัญญาประดิษฐ์เป็นเทคโนโลยีที่นำความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดแห่งยุคนี้เลยก็ว่าได้ หากเราต้องการปลดล็อกศักยภาพของ AI ได้อย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในโลก เราจำเป็นต้องทำให้การเรียนรู้ทางด้าน AI เข้าถึงได้ง่ายและทั่วถึงสำหรับทุกคนที่อยากเรียนรู้ เป้าหมายหลักของโปรแกรม ‘AI Ready’ คือการทำให้การศึกษาด้าน AI เข้าถึงได้ง่าย โดยมีโปรแกรมต่าง ๆ ที่เราได้เปิดตัวในวันนี้มาเป็นที่รองรับ นอกจากนี้แล้วเรายังได้ดัดแปลงโปรแกรมฝึกอบรมทักษะ AI อื่น ๆ ของเราที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เพิ่มขอบเขตและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงทักษะจำเป็นเหล่านี้ได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น”

Amazon ได้เปิดตัวโปรแกรม ‘AI Ready’ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือทุกคนที่มีความประสงค์ที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับ AI และพัฒนาตนเองสำหรับโอกาสมากมายในอนาคต โครงการต่าง ๆ นี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างโอกาสให้แก่บุคลากรทั้งในวันนี้และรุ่นต่อ ๆ ไป

อ้างอิง : https://www.thansettakij.com/technology/technology/582153

Amazon เปิดตัว ‘Amazon Q’ แชทบอท AI ตัวล่าสุดที่เน้นสำหรับองค์กรธุรกิจ ท้าชิงเบอร์ 1 กับ Google และ Microsoft

Amazon บริษัทอีคอมเมิร์ซและผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของโลกได้ก้าวเข้าสู่สังเวียน Generative AI อย่างเต็มตัว หลังจากล่าสุดประกาศเปิดตัว Amazon Q แชทบอทที่เน้นสำหรับการใช้งานด้านธุรกิจอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในงาน Amazon Web Services re:Invent ณ เมืองลาสเวกัส

การเปิดตัวแชทบอทครั้งนี้ของ Amazon ถือเป็นความพยายามที่จะเข้ามาแข่งในสนาม AI กับ Google และ Microsoft ที่ทั้งสองมีเครื่องมือ Generative AI ของค่ายตัวเองแล้ว

ในตอนนี้เวอร์ชันทดลองใช้งานฟรีของ Amazon Q ได้เปิดให้บริการแล้ว แต่เมื่อช่วงใช้ฟรีสิ้นสุดลง ค่าใช้จ่ายต่อหัวเริ่มต้นที่จะอยู่ที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน และ 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน สำหรับนักพัฒนาโปรแกรมและฝ่ายไอทีที่ต้องใช้งานฟีเจอร์ที่หลากหลายกว่า ซึ่งราคาทั้งสองตัวเลือกยังถือว่าต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Duet AI for Google Workspace และ Copilot for Microsoft 365 ที่ต่างตั้งราคาอยู่ที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อเดือน

จุดเด่นของ Amazon Q จากการแถลงของ อดัม เซลิปสกี ซีอีโอประจำ AWS คือความสามารถในการเชื่อมต่อและปรับแต่งให้เข้ากันกับแอปพลิเคชันสำหรับการทำงานได้อย่างหลากหลายกว่า 40 ตัว เช่น Salesforce, Slack, Zendesk และ Gmail เป็นต้น โดยการเชื่อมต่อกับแอปต่างๆ เป็นตัวช่วยให้ Amazon Q ได้เรียนรู้และเข้าใจบริบทในการทำงานภายใน ที่รวมทั้งด้านธุรกิจ โครงสร้างองค์กร ไปจนถึงคอนเซปต์ของสินค้าหรือบริการ

อ้างอิง : https://thestandard.co/amazon-amazon-q-chatbot/

‘Siriraj Health Bot’ บริการหมอ AI ตอบ-วิเคราะห์ปัญหาสุขภาพ

ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการวางรากฐานและแนวทางเพื่อสร้างระบบการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้บริการของศิริราชมาโดยตลอด และเพื่อสอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้น
ทางคณะฯ จึงได้มีการขยายการให้บริการผ่านรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงคิดค้น วิจัย พัฒนานำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ทางด้านการบริการทางการแพทย์อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อรองรับประชาชนได้ในวงกว้าง และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างสูงสุด ลดความแออัดในการมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น

สำหรับ ‘ศิริราช เฮลท์ บอท’ (Siriraj Health Bot) ให้บริการเกี่ยวกับการให้ข้อมูลโรคและอาการวิทยาเบื้องต้นเพื่อคลายความกังวล และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินทางมาโรงพยาบาลด้วยตัวเอง ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเบื้องต้นได้รวดเร็ว นำไปสู่การตัดสินใจดำเนินการเพื่อเข้าสู่กระบวนการการรักษาต่อไปได้ทันเวลา
การพัฒนาระบบตอบกลับอัตโนมัติหรือ Chatbot จะทำการสื่อสารกับผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันไลน์ (Line) โดยหมอเซเร (SaeRé) ที่ถูกสร้างขึ้นจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถสนทนาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอาการที่ตนเองหรือบุคคลในครอบครัวที่มีความผิดปกติเบื้องต้น เพื่อทำการประเมินความเสี่ยง
โดยในระยะแรกจะเปิดให้บริการสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคตาหรือจักษุวิทยาเป็นกลุ่มแรก โดยระบบ Line Chatbot ได้ถูกออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว ประกอบด้วยการใช้งาน 5 ฟังก์ชัน คือ ตรวจสุขภาพด้วยตัวท่านเอง ปรึกษาหมอ ปรึกษาปัญหาสุขภาพ โครงการบางกอกน้อยโมเดล ร่วมตอบแบบสอบถามปัญหาสุขภาพ

อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1101456

AUKUS นำร่องใช้ AI ติดตามเรือดำน้ำจีนในมหาสมุทรแปซิฟิก

กองทัพเรือสหรัฐ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในนามพันธมิตรความร่วมมือด้านความมั่นคง AUKUS กำลังทดสอบระบบโซนาร์ใต้น้ำเอไอ ตรวจจับการเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำกองทัพจีน ในมหาสมุทรแปซิฟิก
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2023 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า หัวหน้าฝ่ายกลาโหมของกองทัพเรือสหรัฐ อังกฤษ และออสเตรเลีย ประกาศร่วมกันเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ได้ตรียมทดสอบวิธีใหม่ในการติดตามเรือดำน้ำของจีน โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยลูกเรือในภารกิจมหาสมุทรแปซิฟิกที่ใช้เครื่องบินสอดแนมและโจมตีทางทะเลของกองทัพเรือสหรัฐจะใช้อัลกอริทึ่มเอไอ เพื่อประมวลผลข้อมูลโซนาร์ที่รวบรวมโดยอุปกรณ์ใต้น้ำของสหรัฐ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียอย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถช่วยให้พันธมิตรทางทหาร AUKUS สามารถติดตามเรือดำน้ำของจีนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการคานอำนาจการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยอย่างรวดเร็ว และการเคลื่อนไหวของกำลังพลที่ก้าวร้าวของจีนที่เพิ่มมากขึ้น
การทดสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการแบ่งปันเทคโนโลยีการทหารของ 3 ประเทศที่รวมตัวกันในชื่อพันธมิตร AUKUS
มหาอำนาจทั้งสามกล่าวว่า จะติดตั้งอัลกอริทึ่มปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงบนระบบทางทหารจำนวนมาก รวมถึงเครื่องบิน P-8A โพไซดอน เพื่อประมวลผลข้อมูลจากโซนาร์ ทุ่น และอุปกรณ์ตรวจจับใต้น้ำของแต่ละประเทศ
เครื่องบิน P-8A Poseidon เป็นเครื่องบินลาดตระเวนประจำกองทัพเรือทั้งสามประเทศ ผลิตโดยบริษัทโบอิ้ง (BA) สามารถบรรทุกตอร์ปิโดและขีปนาวุธร่อนเพื่อโจมตีเรือดำน้ำและเรือผิวน้ำ และมีการบินลาดตระเวนเป็นประจำในมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงทะเลจีนใต้ ทำให้พบเครื่องบินรบของจีนและมักจะมีการบินโฉบอยู่ใกล้ ๆ
ทั้งนี้ ข้อตกลงพันธมิตร AUKUS เป็นความพยายามคานอำนาจในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้กับกองทัพจีน โดยมีความมุ่งเน้นแบ่งปันข้อมูลและเทคโนโลยี ปัจจุบันมีสองเสาหลัก ได้แก่
เสาหลักที่ 1 มุ่งเน้นไปที่การสร้างขีดความสามารถของเรือดำน้ำที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายในประเทศของออสเตรเลีย ซึ่งจะถึงจุดสูงสุดในการพัฒนาร่วมกันของเรือดำน้ำใหม่สำหรับใช้งานภาคสนามภายในปี 2040 (พ.ศ. 2583)
เสาหลักที่ 2 มุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือในด้านเทคโนโลยี 8 ด้าน เช่น เทคโนโลยีควอนตัม ความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูง และอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง
ตามรายงานประจำปีล่าสุดของกระทรวงกลาโหมจีนเกี่ยวกับกองทัพจีนระบุว่า ปัจจุบันจีนมีเรือดำน้ำนิวเคลียร์บรรทุกขีปนาวุธนำวิถี 6 ลำ เรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ 6 ลำ และเรือดำน้ำจู่โจมพลังงานดีเซล/อัดอากาศ 48 ลำ
รายงานระบุด้วยว่า กองเรือดำน้ำของกองทัพเรือจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 65 หน่วยภายในปี 2025 และ 80 หน่วยภายในปี 2035 จากการขยายขีดความสามารถในการก่อสร้างเรือดำน้ำใหม่ แม้ว่าเรือเก่าจะมีการปลดประจำการอย่างต่อเนื่องก็ตาม

อ้างอิง : https://www.prachachat.net/world-news/news-1452210

Google เลื่อนเปิดตัวโมเดลภาษา AI Gemini เพราะยังทำงานในภาษาอื่นได้ไม่ดี คาดเปิดตัวอีกที ม.ค. 2024

ในงาน Google I/O 2023 ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2023 ที่ผ่านมา ทาง Google ได้มีการนำ Gemini โมเดลภาษาขนาดใหญ่เจเนอเรชั่นใหม่ที่พัฒนามาเพื่อท้าชนกับ GPT-4 ของฝั่งคู่แข่งอย่าง OpenAI มาโชว์ความสามารถต่าง ๆ บนเวที พร้อมกำหนดแผนเปิดตัวในช่วงสิ้นปี 2023 นี้ แต่อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า Google ได้ตัดสินใจเลื่อนเปิดตัวออกไปเป็นปีหน้า เพราะ Gemini ยังทำงานได้ไม่ดีพอ

The Information เผยว่า แต่เดิมแล้ว Google มีแผนเปิดตัว Gemini แบบยิ่งใหญ่ใน 3 เมืองหลักอย่าง แคลิฟอร์เนีย, นิวยอร์ก และวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งสาเหตุที่เลือก 3 เมืองใหญ่เป็นเพราะต้องการโน้มน้าวใจนักการเมือง และนักออกกฎหมาย

แต่อย่างไรก็ตาม CEO อย่าง Sundar Pichai ได้ตัดสินใจเลื่อนงานเปิดตัว Gemini ออกไป หลังพบว่าตัว AI ยังไม่สามารถทำงานได้ดี และน่าเชื่อถือพอในการ Generate คำตอบในภาษาอื่น ๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นจุดที่ Google ให้ความสำคัญเป็นหลักเพื่อให้เข้าถึงภาษาต่าง ๆ ได้ครอบคลุมทั่วโลก

ด้วยสาเหตุนี้ทำให้ Google ได้เลื่อนงานเปิดตัวออกไป โดยคาดว่าจะได้เผยโฉมกันเร็วสุดในช่วงเดือนมกราคม ปี 2024 ทั้งนี้อีกหนึ่งจุดมุ่งหมายที่ต้องการทำให้ได้เทียบเท่า หรือล้ม GPT-4 ของฝั่งคู่แข่งนั้น แหล่งข่าวได้ระบุว่า Gemini สามารถทำได้ตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ได้แล้ว (ในบางแง่มุม)
ซึ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาง CEO ของ Google ได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ทางบริษัทกำลังเร่งให้ Gemini 1.0 เวอร์ชันแรกได้เปิดตัวออกมาเร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายในการพัฒนากันแล้ว

สำหรับ Gemini นั้น Google ได้เคยเผยข้อมูลแบบคร่าว ๆ ว่าจะมีความสามารถหลากหลายรูปแบบที่ไม่เคยมีในโมเดลภาษาขนาดใหญ่ตัวก่อน ๆ ซึ่งนอกจากจะสามารถวิเคราะห์ตัวหนังสือ และรูปภาพได้แล้ว Gemini ยังสามารถรวมเครื่องมือกับ API ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง
นอกจากนี้ Gemini สร้างขึ้นเพื่อรองรับนวัตกรรมในอนาคต เช่น หน่วยความจำ และการวางแผน เพื่อจูงใจให้นักพัฒนา Third-Party นำ AI ที่ว่านี้ไปใช้กันมากขึ้น และมีหลากหลายขนาดให้นักพัฒนาได้เลือกนำไปใช้ด้วย

อ้างอิง : https://droidsans.com/google-delay-launching-ai-gemini/

เกษตรกรต้องว้าว ! หุ่นยนต์ AI กำจัดวัชพืชสุดเจ๋งจากสวีเดน

บริษัทสัญชาติสวีเดนผู้ผลิตหุ่นยนต์ช่วยเหลืองานด้านเกษตรกรรมอย่าง เอคโคบอต (Ekobot) ได้นำเสนอหุ่นยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดชื่อ วี-เอไอ (WEAI) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยกำจัดวัชพืช เนื่องจากวัชพืชเป็นปัญหาที่น่ากวนใจสำหรับเกษตรกรมาโดยตลอด และโดยส่วนมากก็จะใช้ยากำจัดวัชพืช ซึ่งส่งผลเสียต่อทั้งผู้คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงมองว่าการพัฒนาหุ่นยนต์ช่วยกำจัดวัชพืชอย่าง WEAI เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถเข้ามาแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้

รูปลักษณ์ของ WEAI เป็นหุ่นยนต์ที่มี 4 ล้อ หนัก 600 กิโลกรัม มันจะมีอุปกรณ์ที่ทำงานเหมือนนิ้ว คอยถอนวัชพืชจากพื้นดินโดยอัตโนมัติ ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถทำงานได้นาน 10 – 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งระยะเวลาเท่านี้สามารถถอนวัชพืชครอบคลุมพื้นที่ได้ประมาณ 60 ไร่ ทำความเร็วได้สูงสุดที่ประมาณ 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง WEAI นำทางด้วย GPS RTK (Real-Time Kinematic เป็นเทคนิคที่ทำให้ GPS แม่นยำมากขึ้น) และติดตั้งเซนเซอร์ด้านความปลอดภัยและระบบการมองเห็น ทำให้มั่นใจได้ว่าหุ่นยนต์จะไม่ชนกับสิ่งกีดขวางหรือมนุษย์โดยไม่ตั้งใจ อีกหนึ่งฟังก์ชันที่ทำให้หุ่นยนต์ตัวนี้โดดเด่นและแตกต่างคือ มีระบบการมอง (Vision System) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้มันสามารถระบุวัชพืชและแยกระหว่างพืชผลกับวัชพืชได้เป็นอย่างดี

เอคโคบอตอ้างว่าได้นำหุ่นยนต์นี้ไปทดลองใช้กับแปลงปลูกหัวหอม ผลคือทำให้ลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชลงถึง 70% โดยหุ่นยนต์สามารถแยกพืชผลและวัชพืชได้อย่างถูกต้อง และบริษัทเชื่อว่ามันสามารถเข้ามาแบ่งเบาภาระงานให้เกษตรกรได้อย่างมาก

บริษัทยังได้อ้างในหมายข่าวประชาสัมพันธ์ว่า การนำหุ่นยนต์กำจัดวัชพืชมาช่วยในการทำฟาร์มหัวหอมนี้ ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดี คือ เก็บรักษาหัวหอมได้ยาวนานขึ้น ช่วยลดการสูญเสีย อีกทั้งยังทำให้รสชาติของหัวหอมดีขึ้นด้วย เพราะเมื่อหัวหอมไม่ได้สัมผัสกับยาฆ่าแมลง หน่อหัวหอมก็จะเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ดูดซับแสงแดดและสารอาหารได้มากขึ้น หัวหอมก็จะมีเนื้อสัมผัสและมีรสชาติดีขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เอคโคบอตได้ร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมของสวีเดนอย่าง เทเลีย (Telia) โดยได้นำเทคโนโลยี 5G ไปบูรณาการเข้ากับหุ่นยนต์ของเอคโคบอต ซึ่งการร่วมมือนี้ก็จะทำให้หุ่นยนต์รุ่นใหม่อย่าง WEAI สามารถสื่อสารระยะไกลกับเซิร์ฟเวอร์ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งมันจะสามารถแบ่งปันข้อมูลในไร่ต่าง ๆ ไปยังส่วนกลางเพื่อวางแผนการทำงานที่ดีขึ้นได้

แนวทางด้านเกษตรกรรมแบบนี้ ไม่ได้จำกัดให้ใช้เฉพาะในสวนหัวหอมเท่านั้น แต่เอคโคบอต กำลังวางแผนจะขยายผลไปยังฟาร์มแครอทและหัวบีตเร็ว ๆ นี้ ก่อนที่จะขยายธุรกิจไปในพืชผลประเภทอื่น ๆ และกระจายไปทั่วโลกด้วย

อ้างอิง : https://news.trueid.net/detail/04PerLly2ZBJ

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน 24 – 30 พฤศจิกายน 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก