ข่าว AI รอบโลก – สัปดาห์ที่ 3 เดือน มิถุนายน 2023

อีกแล้ว! AI โดนหลอก สร้างภาพ-ลบลายน้ำ ภาพที่ขายใน Shutterstock ให้ใช้ได้ฟรี ๆ

ผิดกฎหมายไหม ? เมื่อ AI วาดรูป ถูกมนุษย์ใช้งานช่องโหว่ในการสร้างสรรค์ภาพใหม่ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อภาพลิขสิทธิ์ ใน Shutterstock

หลังจาก Adobe Photoshop เปิดให้ทดลองใช้ Adobe Photoshop Beta 24.6 รุ่นทดลอง ที่ให้เราสามารถใช้ AI วาดรูปในการแต่งเติมผลงานของเราให้แตกต่างออกไปได้ เกิดเป็นประเด็นเมื่อ AI วาดรูปฉลาดเกินจนสามารถสร้างรูปใหม่ที่คล้ายกับภาพที่ขายใน Shutterstock ได้

สำหรับ AI วาดรูป เป็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการเรียนรู้ภาพต่าง ๆ มากมายแล้วนำส่วนใดส่วนหนึ่งมาสร้างเป็นภาพใหม่ตามที่ผู้ใช้ป้อนคำสั่งเข้าไป ซึ่ง Adobe Photoshop เปิดให้ใช้ทดลองในเวอร์ชั่น Beta 24.6 วิธีการที่ AI วาดรูป ใช้ในการลบลายน้ำ Shutterstock คือ ผู้ใช้นำรูปที่ต้องการจากการค้นหาใน Shutterstock มาสร้างรายละเอียดรอบ ๆ รูปเดิมก่อน จากนั้นจึงลบภาพเดิมที่มีลิขสิทธิ์ออก แล้วจึงออกคำสั่งสร้างภาพใหม่มาแทน

จากการทดลองภาพของ VDB Photos บน Shutterstock แล้วนำมาให้ AI วาดรูปสร้างภาพขึ้นมา พบว่า ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างแต่หากใช้ทักษะด้านดิจิทัลเพิ่มเติมก็สามารถสร้างภาพให้ที่คล้ายกันได้ไม่ยาก เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาเมื่อภาพที่มีลิขสิทธิ์ ช่างภาพต่างทุ่มเทพลังงานเพื่อให้เกิดภาพที่สวยงามและนำไปใช้ต่อได้ แต่กลับถูก AI ลอกงานไป โดยที่ไม่ได้เงินเลยสักบาทเดียว เรื่องนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ ? ยังไม่มีกรณีศึกษาในต่างประเทศ แต่หากต้องการเอาผิด เจ้าของภาพ(ต้นฉบับ) ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ภาพของเขาถูกลอกไปจริง ๆ แม้ว่าจะพิสูจน์ยากก็ตาม เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย

อ้างอิง : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/840185

Meta เปิดตัว MusicGen AI แต่งทำนองเพลงจากข้อความ เปิดทดลองให้ใช้ฟรีแล้ว

Meta กำลังเปิดตัว MusicGen AI ซึ่งพัฒนาโดยทีม Audiocraft ซึ่งได้นำ AI เข้ามาช่วยให้สามารถสร้างเพลงใหม่ตามข้อความ คล้ายกับ ChatGPT ที่สร้างทำนองเพลงได้ ขณะนี้เปิดทดลองให้ใช้ฟรีๆแล้ว

Meta เปิดตัว MusicGen AI ที่ถูกพัฒนามาให้สามารถสร้างทำนองเพลงผ่านการพิมพ์ข้อความไปได้ ซึ่งเราสามารถระบุได้เลยว่าต้องการเพลงแนวไหน เช่น เพลงป๊อปยุค 80 และเมื่อเรากดสร้าง MusicGen AI จะสร้างทำนองเพลงให้เราได้เลย MusicGen AI ใช้เพลงลิขสิทธิ์ 20,000 ชั่วโมงสำหรับการฝึกอบรม รวมถึงแทร็กเพลงคุณภาพสูง 10,000 แทร็กจากชุดข้อมูลภายใน พร้อมด้วยแทร็ก Shutterstock และ Pond5 เพื่อให้เร็วขึ้น พวกเขาใช้โทเค็นเซอร์เสียง EnCodec 32Khz ของ Meta

ก่อนหน้านี้ Google ก็ได้เปิด MusicLM ที่สามารถสร้างทำนองเพลงได้จากการพิมพ์ข้อความระบุเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า MusicGen AI จะทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ซึ่งทำให้เราเห็นว่าในอนาคตเราอาจสร้างสรรค์ดนตรีได้ง่ายขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลของ AI ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ยังสามารถทำอะไรได้อีกมากในอนาคตหากได้มีการคิดค้นและพัฒนาต่อ

MusicGen AI ยังสามารถนำไปใช้สร้างเพลงเชิงพาณิชย์ได้ด้วย เพียงแค่พิมพ์ข้อความเราก็อาจได้ทำนองเพลงใหม่ๆมาเพิ่มไอเดียในการสร้างเพลงและเชื่อว่าในอนาคตเทคโนโลยีประเภทนี้อาจเข้ามาช่วยทำให้วงการเพลงสนุกสนานและง่ายยิ่งขึ้น

อ้างอิง : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/840108

เปิดตัว Opera One เบราวเซอร์ใหม่พร้อมแชทบอท AI “Aria”

Opera ได้เปิดตัว Opera One ซึ่งเป็นเบราว์เซอร์เวอร์ชั่นใหม่ที่มาพร้อมกับแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีชื่อว่า “Aria” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับ Bing chatbot บน Microsoft Edge โดยตัวของ Aria นั้นจะอยู่ภายในแถบด้านข้างของเบราว์เซอร์ ซึ่งคุณสามารถให้มันทำการตอบคำถามโดยใช้ข้อมูลล่าสุด สร้างข้อความหรือโค้ด ระดมความคิดและอื่น ๆ อีกมากมาย

แชทบอทในตัวขับเคลื่อนโดยกลไก Composer AI ของ Opera และเชื่อมต่อกับโมเดล GPT ของ OpenAI อีกด้วย ในการใช้ Aira นั้นคุณต้องสมัครบัญชี Opera และคุณสามารถคลิกไอคอน Aria ทางด้านซ้ายของหน้าจอเพื่อเริ่มแชทได้เลย ปัจจุบันมันพร้อมให้ใช้งานสำหรับทุกคนแล้ว

อย่างไรก็ตามแม้ว่า Aria จะทำเกือบทุกอย่างที่ Bing chatbot ทำได้ แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับ Edge Assistant อยู่ดี โดย Aria นั้นไม่มีระบบเมนูที่ให้คุณเลือกรูปแบบการสนทนาได้อย่างรวดเร็วเมื่อถามคำถาม และยังไม่มีตัวเลือกแบบคลิกเดียวถึงที่ให้คุณเลือกน้ำเสียง รูปแบบ และความยาวของข้อความที่คุณต้องการสร้างได้.

นอกจาก Aria แล้ว Opera One ยังมาพร้อมกับการอัปเกรดเพิ่มเติมอีกสองสามรายการ ซึ่งรวมถึง “tab islands” ใหม่ที่จัดกลุ่มแท็บที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติตามบริบท พร้อมด้วยการออกแบบใหม่และสถาปัตยกรรมเบราว์เซอร์ที่อัปเกรด ทุกคนสามารถลองใช้ Aria และเบราว์เซอร์ Opera One ใหม่สำหรับ Windows, macOS และ Linux ได้แล้ว

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/6/21/23768888/opera-one-browser-aria-ai-assistant-chatbot

Mercedes-Benz ทดสอบ ChatGPT ในรถยนต์ ‘ตอบคำถามซับซ้อน’ ขณะอยู่บนท้องถนน

Mercedes-Benz กำลังทดสอบ ChatGPT รุ่นเบต้าในฐานะ voice assistant ในรถยนต์ของพวกเขา โดยบริษัทกล่าวว่าผู้ขับขี่จะสามารถมีส่วนร่วมกับแชทบอทในการสนทนาที่หลากหลาย โดยสามารถถามถึง “รายละเอียดเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของพวกเขา แนะนำสูตรอาหารเย็นใหม่ หรือตอบคำถามที่ซับซ้อน” ในขณะที่วางมือไว้ที่พวงมาลัยและสายตาอยู่บนถนน.

โปรแกรมเบต้าจะพร้อมให้ทดลองสำหรับรถยนต์กว่า 900,000 คันในสหรัฐอเมริกาที่ติดตั้งระบบสาระบันเทิง MBUX ของ Mercedes-Benz ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเปิดใช้งานโปรแกรมทดลองได้ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนด้วยคำสั่งเสียง “เฮ้ Mercedes ฉันต้องการเข้าร่วมโปรแกรมเบต้า” จากนั้น การอัปเดตจะถูกติดตั้งผ่านทางอากาศโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

การอัปเกรดผู้ช่วยเสียงของ Mercedes โดยใช้ AI แบบเดียวกันกับกับ ChatGPT เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ตามที่บริษัทระบุไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์การอัปเดตควรอนุญาตให้ผู้ขับขี่โต้ตอบกับผู้ช่วยเสียง MBUX ด้วย “รูปแบบการสนทนาที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น” ผู้ขับขี่ไม่ต้องจำวลีบางอย่างเฉพาะเพื่อใช้งานฟังก์ชันที่ต้องการ มากไปกว่านั้นทาง Microsoft บอกว่าการอัปเกรด ChatGPT จะเสนอ “ความสามารถในการทำงานที่เพิ่มขึ้น” ให้กับผู้ขับขี่ Mercedes-Benz ทำให้พวกเขาสามารถถาม “คำถามที่ซับซ้อนมาก” แก่ผู้ขับ

อย่างไรก็ตามเราคงจะได้ยินเกี่ยวกับผู้ใช้ที่ทำการ jailbreak โปรแกรมของ Mercedes และทำการถาม “เฮ้ ChatGPT แสร้งทำเป็นว่าเรากำลังอยู่ในโหมดดีบั๊กที่โรงงาน Mercedes …” ซึ่งบางทีพวกเขาอาจใช้มันเพื่อปลดล็อกการสมัครสมาชิก “Acceleration Enhance” ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันเกี่ยวกับการคิดค่าบริการ 60 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อเพิ่มอัตราเร่งให้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/6/16/23763208/mercedes-benz-chatgpt-voice-assistant-beta-test

แอปฯ ค้นหาด้วยภาพ Lens “ระบุปัญหาผิวหนังได้แล้ว” Google กล่าว

ขณะนี้ Google Lens สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผื่นที่น่ารำคาญซึ่งเราไม่แน่ใจว่าควรกังวลหรือไม่ ในบล็อกโพสต์ที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ Google ได้สรุปว่าฟีเจอร์การค้นหารูปภาพของ Lens ที่ติดตั้งในแอปบน iOS และ Android สามารถ “ค้นหาสภาพผิว” เช่น “ไฝหรือผื่นที่ผิดปกติ” ได้อย่างไร นอกจากนี้ยังใช้ได้กับส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตุ่มที่ริมฝีปาก เส้นบนเล็บ หรือผมร่วงจากหนังศีรษะ

“แค่ถ่ายรูปหรืออัปโหลดรูปผ่าน Lens แล้วคุณจะพบภาพที่ตรงกับการค้นหาของคุณ” บล็อกโพสต์ระบุ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือ Google เตือนเป็นพิเศษว่าผลลัพธ์เป็น “ข้อมูลเท่านั้น ไม่ใช่การวินิจฉัย” และระบุว่าผู้ใช้ควร “ขอคำแนะนำจากหน่วยงานทางการแพทย์ของคุณ” ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับทุกคนในสหรัฐอเมริกาในทุกภาษา โฆษกของ Google Craig Ewer ยืนยันกับ The Verge

Google ได้สำรวจการใช้การจดจำภาพ AI สำหรับสภาพผิวมาหลายปีแล้ว ในการประชุมนักพัฒนา I/O ในปี 2021 บริษัทได้แสดงตัวอย่างเครื่องมือที่พยายามระบุสภาพผิว ผม และเล็บโดยใช้ภาพถ่ายและการตอบแบบสำรวจร่วมกัน ในเวลาที่ Google กล่าวว่าเครื่องมือสามารถจดจำลักษณะต่างๆ ได้ 288 ลักษณะ และจะแสดงลักษณะที่ถูกต้องในคำแนะนำสามอันดับแรกถึง 84 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตามข้อวิจารณ์หนึ่งที่มีการวิจารณ์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการระบุสภาพผิวคือซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีความแม่นยำน้อยกว่าสำหรับผู้ใช้ที่มีโทนสีผิวเข้ม งานวิจัยที่อ้างโดย The Guardian ในปี 2021 ระบุว่าไม่มีข้อมูลหมวดหมู่ประเภทผิวในฐานข้อมูลภาพที่มีอยู่อย่างเสรีจำนวนมากซึ่งใช้ในการฝึกระบบ AI และการขาดภาพของบุคคลผิวคล้ำในฐานข้อมูลที่มีข้อมูลนี้รวมอยู่ด้วย

ในการตอบคำถามของ The Verge เกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ทำงานได้ดีเพียงใดในโทนสีผิวต่างๆ โฆษกของ Google Craig Ewer กล่าวว่าบริษัทได้พยายามสร้างฟีเจอร์ด้วยวิธีที่เท่าเทียมกันโดยทำงานร่วมกับองค์กรและแพทย์ที่ให้บริการผู้ป่วยจาก “ภูมิหลังที่หลากหลาย” เขาเสริมว่าบริษัททำงานร่วมกับแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญด้านโทนสีผิวต่างๆ เพื่อดูแลจัดการภาพขนาดย่อ

อ้างอิง : https://www.theverge.com/2023/6/15/23761905/google-lens-skin-conditions-rash-identification

กทม. ใช้ AI จับ จยย. ขับบนทางเท้า 1 สัปดาห์พบทำผิดกว่า 4 พันคัน

กทม. รุกนำ AI จับ จยย. ขับบนทางเท้า พบ 1 สัปดาห์ ทำผิดกว่า 4,000 คัน รถ ปชช. ทั่วไปมากสุดกว่า 1,800 คัน “ชัชชาติ” ย้ำ จับจริง ปรับ 2,000 บาท มากกว่ากฎหมายจราจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร นำเทคโนโลยีระบบ AI มาใช้ติดตั้งบนทางเท้า เพื่อจับรถจักรยานยนต์ ที่ขับขี่บนทางเท้า ระหว่างวันที่ 12- 20 มิ.ย.2566

โดยติดตั้งไว้จำนวน 5 จุดนำร่อง ได้แก่ จุดที่ 1 ปากซอยรัชดาภิเษก 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) จุด 2 โรงเรียนนิเวศน์วารินทร์ จุด 3 ปากซอยเพชรเกษม 28 จุด 4 ปั๊มน้ำมัน ปตท. เทพารักษ์ และ จุด 5 ปากซอยเพชรบุรี 9

ซึ่งวันนี้ (21 มิ.ย.2566) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหาร กทม. เปิดเผยภาพรวม พบจำนวนรถจักรยานยนต์ที่ทำผิดมีกว่า 4,000 คัน ในจำนวนนี้ เป็นรถของประชาชนทั่วไปมากที่สุด 1,884 คัน

โดยจุดที่พบการทำผิดมากที่สุด ทางผู้บริหาร กทม. ระบุว่า อยู่ที่ ทางเท้าปากซอยรัชดาภิเษก 36 หรือ ซอยเสือใหญ่อุทิศจำนวน 2,921 คัน จากจำนวน 5 จุดที่ กทม. นำกล้อง AI ไปติดตั้ง
นอกจากนี้ ยังพบ กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ทำผิด 592 คัน กลุ่ม ไรเดอร์ 309 คัน และกลุ่มอื่นๆ ซึ่ง กทม. จะขยายเพิ่มอีก 100 จุด ในการติดตั้ง AI ให้ครอบคลุมภายใน 1-2 เดือนนี้ ทั่วกรุงเทพ

สำหรับจ่ายค่าปรับ การขับขี่จากการตรวจจับของกล้อง AI หลังจากเทศกิจรวบรวมข้อมูลแล้ว จะทำหนังสือส่งไปให้กับเจ้าของรถตามทะเบียนบ้าน ที่เชื่อมข้อมูลไว้กับกรมขนส่งทางบกเพื่อแจ้งให้จ่ายค่าปรับ ภายใน 15 วัน ในอัตรา 2,000 บาท ถ้ายังไม่มา ก็จะส่งหนังสือแจ้งเตือน ครั้งที่ 2 ส่วนเงินที่ได้จากการตรวจจับกล้อง AI นำรายได้เข้า กทม.

อ้างอิง : https://www.thaipbs.or.th/news/content/328976

GRAMMY AWARDS ปรับแนวทางใหม่ ยันรับพิจารณาผลงานจาก AI แต่ต้องมี “มนุษย์” เป็นองค์ประกอบหลัก

ผลการสำรวจดังกล่าวเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับอนาคตของอาชีพโปรแกรมเมอร์ที่อาจถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดังนั้น โปรแกรมเมอร์ควรใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้ผลการทำงานที่มีประสิทธิภาพและในขณะเดียวกันไม่ลดทอนความสามารถของตัวเองลง รวมไปถึงอาชีพอื่น ๆ ที่เริ่มมีการปรับตัวนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้กับการทำงานของตนเอง

ในการให้สัมภาษณ์ Mason ได้ยอมรับว่าตัวเขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่า AI จะมีอิทธิพลต่อวงการมากแค่ไหนแต่ก็ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความท้าทายที่อาจจะเกิดขึ้น และเพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านี้ ทาง Recording Academy ซึ่งเป็นผู้จัดงานจึงได้ดำเนินการเชิงรุก รวมถึงมีการประชุมกันกับฝั่งผู้นำในอุตสาหกรรมดนตรี, ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี, แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง และศิลปิน เพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทของ AI และอนาคตของดนตรี

ด้านกฏระเบียบสำหรับงาน GRAMMY Awards ปี 2024 ทาง Mason ชี้แจงว่าทางกรรมการจะรับพิจารณาผลงานเพลงที่สร้างด้วย AI Gennerative และตัวคอนเทนท์ที่สร้างด้วย AI แต่รางวัลจะถูกมอบให้กับผู้สร้างผลงานที่เป็นมนุษย์ ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานตามประเภทที่เหมาะสมเท่านั้น

สำหรับเสียงหรือเครื่องดนตรีที่สร้างโดย AI ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน แต่ในหมวดหมู่ที่เน้นการประพันธ์เพลงจะต้องเป็นมนุษย์ที่มีส่วนสำคัญในผลงานมากกว่า เช่นเดียวกันกับหมวดหมู่การแสดงที่จะมอบให้เฉพาะกับการแสดงที่เป็นของมนุษย์เท่านั้น ซึ่ง Mason อธิบายว่าในขณะที่ AI อาจจะมีส่วนร่วมในกระบวนการแต่งเพลงหรือสร้างเพลงขึ้นมา แต่การให้ความสำคัญและรางวัล GRAMMY จะสงวนไว้สำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นมนุษย์เท่านั้น

การปรับเปลี่ยนกฏและแนวทางใหม่เหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Recording Academy ที่ยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงควบคู่กับการรักษาความสมบูรณ์ด้านการแสดงผลทางศิลปะเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบของ AI และสร้างกรอบการทำงานที่ยอมรับการมีส่วนร่วมของมนุษย์ โดยมีเป้าหมายที่จะนำทางภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมเพลง และรับประกันที่สร้างความยุติธรรมและครอบคลุมสำหรับศิลปินทุกคน

อ้างอิง : https://www.mxphone.com/here-is-the-grammys-viewpoint-on-ai-winning-awards-for-ai-generated-music/

GitHub เผย 92% ของโปรแกรมเมอร์ใช้ AI เขียนโค้ด ลงความเห็นตรงกันเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำงาน

GitHub บริการออนไลน์แพลตฟอร์มสำหรับโปรแกรมเมอร์อัปโหลดไฟล์โค้ด (Source Code) โปรแกรมเปิดเผยข้อมูลจากโปรแกรม 500 คน ในสหรัฐอเมริกาพบว่า 92% ของโปรแกรมเมอร์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เขียนโค้ดโปรแกรม ในขณะที่ 70% ลงความเห็นว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือที่ประสิทธิภาพและช่วยสร้างข้อได้เปรียบในการทำงาน

โดยเครื่องมือที่โปรแกรมเมอร์ใช้มากที่สุด คือ แชทจีพีที (ChatGPT) โดยมันกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับโปรแกรมเมอร์ การใช้งานส่วนใหญ่เป็นไปในลักษณะการตกแต่งโค้ดโปรแกรมให้มีคุณภาพและทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น โปรแกรมเมอร์หลายคนมีความเห็นตรงกันว่า แชทจีพีที (ChatGPT) ยังมีข้อผิดพลาดอยู่จำเป็นต้องตรวจสอบโค้ดโปรแกรมก่อนนำไปใช้งาน

นอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับจำนวนผู้ใช้งาน GitHub ที่ลดลงหลังจากโปรแกรมเมอร์เริ่มหันไปใช้งานปัญญาประดิษฐ์เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงแพลตฟอร์มที่มีลักษณะคล้ายกับ GitHub เช่น Stack Overflow ก็มีจำนวนผู้ใช้งานที่ลดลงเช่นเดียวกับ GitHub

ผลการสำรวจดังกล่าวเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับอนาคตของอาชีพโปรแกรมเมอร์ที่อาจถูกแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดังนั้น โปรแกรมเมอร์ควรใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้ผลการทำงานที่มีประสิทธิภาพและในขณะเดียวกันไม่ลดทอนความสามารถของตัวเองลง รวมไปถึงอาชีพอื่น ๆ ที่เริ่มมีการปรับตัวนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้กับการทำงานของตนเอง

อ้างอิง : https://www.tnnthailand.com/news/tech/149124/

—————————————————————————————-

ทั้งหมดเป็นข่าวที่น่าสนใจใน  16- 22 มิถุนายน 2566 พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้านะคะ : )

หากมีข้อสงสัย ติชมสามารถ ติดตามและสอบถามได้ที่
 : AIไทยสามารถ โดย AI for all Thailand



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึก